เหล็กไทย5แสนตันรอดภาษีส่งออกสหรัฐ

สหรัฐเว้นภาษีเหล็กไทย 5 แสนตัน ขณะที่ยอด 9 เดือนสินค้าถูกใช้มาตรการกีดกันทางการค้า 10 รายการ

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบผลกระทบกรณีที่สหรัฐใช้มาตรา 232 ขึ้นภาษีสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั่วโลกในอัตรา 25% และ 10% พบว่าการส่งออกเหล็กไทยไปตลาดสหรัฐยังไม่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรา 232 เนื่องจากผู้ส่งออกไทยได้ประสานผู้นำเข้าเหล็กจากสหรัฐขอยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา มีเหล็กไทยได้รับการยกเว้นภาษีแล้ว 5 แสนตัน เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่นที่ได้รับการยกเว้นภาษีเหล็กมากสุด 5.5 แสนตัน

"สินค้าเหล็กไทยที่ได้รับการยกเว้นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกที่ใช้ ทำกระป๋อง เครื่องครัว กระทะ เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าเหล็กที่ไทยผลิตได้มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการของตลาดสหรัฐ" นายอดุลย์ กล่าว

นอกจากนี้ กรมยังได้ติดตามผล กระ ทบจากกรณีที่เหล็กส่วนเกินในตลาดโลกจะไหลเข้ามาในอาเซียนรวมทั้งไทยตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ โดยเฉพาะเหล็กและอะลูมิเนียมจากจีนที่ถูกสหรัฐใช้มาตรา 232 โดย กรมได้ประสานการทำงานร่วมกับศุลกากร ของสหรัฐในการตรวจสอบเหล็กที่อาจ ถูกสวมสิทธิแหล่งกำเนิดสินค้าจากไทยส่งออกไปสหรัฐอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีมาตรการกรณีหากมีเหล็กไหลทะลักเข้ามาในไทยจำนวนมากสามารถเปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการเยียวยาทางการค้าได้ เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (เอดี/ซีวีดี) เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) 2561 พบว่าสินค้าของไทยถูกใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) 10 รายการ เป็นกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ 7 รายการ และกลุ่มเหล็ก 3 รายการ จาก 8 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐ บราซิล เกาหลีใต้ จีน และปากีสถาน

ภาพประกอบข่าว