เร่งแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่

"สุเมธ" แจงแผนจัดซื้อเครื่องบิน 23 ลำ ต้องรอบคอบ เผยอาจมีทั้งเช่าและซื้อขาด พิจารณาควบคู่กับแผนเส้นทางบิน

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย เปิดเผยถึงแผนการจัดซื้อเครื่องบินใหม่นั้น จะเร่งเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ให้เร็วที่สุดตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยเบื้องต้นการจัดซื้อเครื่องบิน 23 ลำ วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น จะมีทั้งรูปแบบการเช่าและการซื้อขาดโดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินเป็นหลัก รวมถึงแนวทางการขอกู้เงินจากกระทรวงการคลัง

สำหรับแผนภาพรวมการบินไทยต้องการเครื่องบินใหม่ 75 ลำ ขณะนี้ ได้จัดซื้อไปแล้ว 37 ลำ ยังเหลืออีก 38 ลำ ดังนั้นต้องมาทบทวนการจัดซื้อเครื่องบินล็อตนี้จะจัดซื้อตามแผนเดิม 23 ลำ หรือไม่ และล็อตต่อไปจะเป็นจำนวน เท่าไหร่ โดยจะพิจารณาควบคู่กับแผน จัดเส้นทางบินใหม่ ทั้งนี้การเช่าซื้อเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีต่อสถานะทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม แผนลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ภายในสนามบินอู่ตะเภานั้น จะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนคัดเลือกเอกชนร่วมทุนในเดือน ก.พ. 2562 และเปิดให้บริการในปี 2565

ทั้งนี้ จากตัวเลขการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบินในภูมิภาคนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากตามจำนวนนักบินและเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นถึง 50% ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับทั่วโลกที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20%

นายสุเมธ กล่าวถึงแผนฟื้นฟูกิจการนั้นต้องเริ่มจากการลดรายจ่าย การปรับปรุงแผนบริหารสินทรัพย์ที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทควบคู่ไปกับแผนการลดรายจ่ายในแต่ละฤดูการบิน หรือในแต่ละไตรมาสของปี ซึ่งธุรกิจการบินมีกำไรสลับกับขาดทุนในทุกไตรมาสตามฤดูการท่องเที่ยว ดังนั้นต้องลดรายจ่ายช่วงโลว์ซีซั่นแล้วนำรายได้จากส่วนอื่นมาทดแทนกันไม่ให้เกิดการขาดทุนในแต่ละไตรมาส ตาม เป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ในอนาคตจะต้องมีกำไรอย่างยั่งยืนในทุกไตรมาส

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีรายได้มั่นคงและตัวเลขบัญชีที่ดีในแต่ละไตรมาสแล้ว ต้องเดินหน้าลดรายจ่ายประจำขององค์กร ตลอดจนพยายามเปลี่ยนรายจ่ายดังกล่าวให้เป็นแบบรายจ่ายผันแปร

"การบินไทยต้องใช้เวลา ผมไม่ใช่ ซูเปอร์แมนที่จะกดปุ่มแล้วเห็นผลได้เลย บริษัทมีรายได้ปีละ 2 แสนล้าน ทรัพย์สินอีกนับแสนล้าน ฐานมันใหญ่ขนาดนี้ขอให้ทุกคนใจเย็น แม้จะดูยากแต่ผมเริ่มเห็นทิศทางขอให้เชื่อมั่นว่าทำตามกรอบเวลาของท่านสมคิดได้แน่นอน" นายสุเมธ กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม ว่า การบินไทยต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับนักลงทุนว่าจะต้องได้ข้อสรุปแนวทางการจัดซื้อเครื่องบินเพิ่มภายใน 3 เดือนนับจากนี้ โดยให้เร่งสรุปภายใน 30 วันนับจากนี้ ทั้งเรื่องแผนจัดเส้นทางบินใหม่ การจัดซื้อเครื่องบินใหม่ รวมถึงการจับมือพันธมิตรธุรกิจ โดยให้เสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นแพ็กเกจ อาทิ การกู้เงินเพื่อจัดซื้อเครื่องบินใหม่จะมีแนวทางชำระภายใน 10-15 ปีอย่างไร