แกลโลไทยทุ่ม 100 ล.ลุยตลาดช็อกโกแลต

แกลโลไทย เตรียมลุยตลาดช็อกโกแลตเมืองไทยเต็มสูบ ทุ่มงบ 100 ล้านบาท สร้างโรงงานใหม่  เดินหน้าลุยตลาดผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตในไทยและภูมิภาคเอเชีย เจาะกลุ่ม B2B และ B2C ตั้งแต่ระดับกลางถึงไฮเอนด์ 
 
นาย จอห์น-หลุยส์ เกรนด๊อจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกลโลไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต กล่าวว่า บริษัท แกลโลไทย จำกัด ถือเป็นผู้ผลิตช็อกโกแลตระดับพรีเมียมรายแรกที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1993 หรือกว่า 25 ปีที่ผ่านมา โดยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในสมัยนั้นตลาดผู้ผลิตช็อคโกแลตในประเทศไทยยังไม่มีการแข่งขันที่รุนแรงมากนัก รวมถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการบริการที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล (Customize) จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้า และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
 
โดยรูปแบบการทำธุรกิจตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของบริษัทฯ มากกว่า 80% จะเป็นการทำ B2B คือการผลิตภัณฑ์ส่งให้กับผู้ประกอบการต่างๆ รวมไปถึงการทำในลักษณะ OEM ส่งให้กับแบรนด์ต่างๆ ระดับท็อปคลาสของเมืองไทย อาทิ โรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร สายการบิน และในส่วนที่เหลือคือ แกลโลไทยผลิตแบรนด์ของตัวเองอีก 2 แบรนด์ คือ “ดุ๊ก เดอ พาแลง” (Duc De Praslin) ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตระดับพรีเมียม สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีขึ้นไป และแบรนด์ “ช็อกโกซิตี้” (CHOCOCITY) ซึ่งจะเจาะตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งภาพรวมของรายได้ปีล่าสุดมีมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาทต่อปี
 
ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าตลาดช็อคโกแลตในเมืองไทยจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการบริโภคช็อคโกแลต โดยเฉพาะช็อคโกแลตระดับพรีเมียมกันเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนรวมไปถึงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐบาล ที่จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของการก่อตั้ง บริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เปิดโรงงานแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา บนเนื้อที่กว่า 5,000 ตร.ม. เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตของแกลโลไทย
 
สำหรับโรงงานดังกล่าวถือเป็นการใช้นวัตกรรมการผลิตรุ่นใหม่ เพื่อส่งเสริมการผลิตให้มีคุณภาพและรวดเร็วสามารถผลิตช็อคโกแลตในรูปแบบต่างๆ ได้ถึง 4,000 แบบต่อปี ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่ม B2B โดยตั้งเป้าว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 10-20 เท่าตัว นอกจากนี้ก็จะยังคงการผลิตด้วยมือ (Hand Made) ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของแกลโลไทย สำหรับการผลิตสินค้าที่เป็นพรีเมียมภายใต้แบรนด์ของแกลโลไทย นอกจากนี้ภายในโรงงานยังออกแบบให้มีระบบการทำงานทั้งด้านความปลอดภัย ความสะอาด ในระดับมาตรฐานสากล คือยังคงใช้กำลังคนและเพิ่มหุ่นยนต์เข้ามา เพื่อความปลอดภัยและสามารถควบคุมความสะอาดได้ 100%
 
นาย จอห์น-หลุยส์ เกรนด๊อจ กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดโรงงานแกลโลไทยใหม่แห่งนี้ ได้รับเกียรติจาก เจ้าหญิง เลอา แห่งประเทศเบลเยี่ยม เสด็จเป็นประธานเปิด เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าภายหลังการสร้างโรงงานดังกล่าวว่า บริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตปีละ 20%