posttoday

ขสมก.ปัดเอื้อเอกชนรอดพ้นถูกเลิกสัญญากล่องหยอดเหรียญค่าโดยสาร

08 ตุลาคม 2561

ขสมก.เสนอบอร์ดเคาะยกเลิกสัญญาติดตั้งกล่องหยอดเหรียญค่าโดยสารรถเมล์ แฉเอกชนเปิดเกมสาดโคลนแต่เอาขสมก.เป็นตัวประกัน

ขสมก.เสนอบอร์ดเคาะยกเลิกสัญญาติดตั้งกล่องหยอดเหรียญค่าโดยสารรถเมล์ แฉเอกชนเปิดเกมสาดโคลนแต่เอาขสมก.เป็นตัวประกัน

จากกรณีที่มีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนโครงการติดตั้งกล่องหยอดเหรียญ (Cash Box) รวมถึงเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) รถเมล์ 2,600 คัน วงเงิน 1.6 พันล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้สอบสวนนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ส่อเอื้อเอกชนให้รอดพ้นจากการถูกยกเลิกสัญญาและถูกประกาศขึ้นแบล็คลิสต์ ภายหลังจากไม่สามารถส่งมอบกล่องหยอดเหรียญได้ตามสัญญา

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.เปิดเผยว่ากระบวนการยกเลิกสัญญาโครงการดังกล่าวนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและรัฐบาลเป็นสำคัญ อีกทั้งที่ผ่านมาได้หารือกับกรมบัญชีกลางและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)จนได้ข้อสรุปแล้วว่าสามารถทำได้เพราะระบุไว้ในสัญญา ดังนั้นขสมก.จะเสนอเรื่องแนวทางยกเลิกสัญญาให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)ขสมก.พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 11 ต.ค.นี้ เบื้องต้นจะใช้วิธีเจรจากับเอกชนคู่สัญญาคือ บริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน) หรือ CHO เพื่อกำหนดวงเงินที่ต้องชำระตามสัญญาใหม่ หากการเจรจาคืบหน้าไปได้ด้วยดีคาดว่าจะปิดยอดตัวเลขในวงเงินที่ไม่เกิน 1 พันล้านบาท

นายณัฐชาติกล่าวต่อว่าส่วนประเด็นที่ผู้ร้องเรียนระบุว่าในทีโออาร์ของโครงการข้อที่ 12 เรื่องการบอกเลิกสัญญาซึ่งได้ระบุไว้ว่า หากผู้ชนะการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์ไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ขสมก.ต้องใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันทั้งหมดนั้น เป็นความจริงที่ทีโออาร์ระบุข้อความดังกล่าวไว้ทว่าในสัญญาได้กำหนดชัดเจนแล้วว่าสามารถบอกเลิกสัญญาได้บางส่วนเพื่อให้โครงการเดินต่อไปได้ ซึ่งหลังจากลงนามแล้วต้องยึดสัญญาเป็นที่ตั้ง

ด้านแหล่งข่าวขสมก.ระบุว่าผู้ร้องเรียนดังกล่าวเป็นบุคลากรของบริษัทที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการประมูลโครงการดังกล่าวจึงถือว่าไม่มีส่วนได้เสีย ดังนั้นจึงมีเป้าหมายชัดเจนในการดิสเครดิตคู่แข่ง

อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้องเพราะเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องไปเคลียร์กันเอง ไม่ใช่นำขสมก.มาเป็นตัวประกันในเรื่องดังกล่าวจนอาจทำให้สังคมเสียผลประโยชน์ไปด้วย