ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ลดครั้งแรกในรอบ4เดือน

ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.อยู่ที่ 82.3 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เหตุเจอปัจจัยทั้งนักท่องเที่ยวจีนหาย-ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.อยู่ที่ 82.3 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ 83.2 และยังเป็นการปรับลดลงทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ สาเหตุที่ส่งผลให้ดัชนีในเดือนก.ย.ลดลงนั้น มาจากหลายปัจจัยลบที่รุมเร้าได้แก่ 1.จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง และคาดว่าจะยังลดลงต่อเนื่องถึงเดือนพ.ย. ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ที่ผูกพันกับการท่องเที่ยวของจีนกำลังซื้อหายไป 2. ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 30 บาท/ลิตร 3.ราคาสินค้าเกษตรเริ่มย่อตัวลงอีกรอบ และ4.ความกังวลสงครามการค้าขยายตัว

"ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 1 บาท/ลิตร ทำให้ดึงเงินออกจากระบบ 1,500 ล้านบาท และดึงให้ราคายางพารา รวมทั้งสินค้าเกษตรต่างๆ ย่อตัวลง จึงทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาส4/2561 ไม่เด่นอย่างที่คิดไว้ แต่หอการค้าไทยยังคงไม่เปลี่ยนมุมมองทางเศรษฐกิจปีนี้ โดยยืนที่ 4.5-4.6% และจะกลับมาฟื้นตัวปกติในช่วงกลางปีหน้า" นายธนวรรธน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี หากในปี 2562 สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนยังไม่คลายตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้นไปแตะระดับ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก็จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลทะลุ 30 บาท/ลิตร ดังนั้นรัฐบาลอาจต้องพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในการพยุงราคาน้ำมันแทนการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ 2.5 หมื่นล้านบาท เพื่อตรึงราคาน้ำมันขายปลีกไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตรต่อไปได้ถึงปีหน้า