posttoday

ลุ้นเป้าส่งออกข้าว11ล้านตัน

04 ตุลาคม 2561

สถานการณ์ส่งออกข้าวไทย 9 เดือนทะลุ 8.4 แสนตัน เร่งเครื่อง 3 เดือนสุดท้ายขยายตลาดป้อนออร์เดอร์ต่างประเทศ

สถานการณ์ส่งออกข้าวไทย 9 เดือนทะลุ 8.4 แสนตัน เร่งเครื่อง 3 เดือนสุดท้ายขยายตลาดป้อนออร์เดอร์ต่างประเทศ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) ตามสถิติที่ได้รับจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าว มีปริมาณรวม 8.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.87% คิดเป็น 84% ของเป้าหมายการส่งออกข้าวในปีนี้ ที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน โดยมีมูลค่า 4,314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.40% มูลค่า 1.37 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43% และมีมูลค่าเฉลี่ยการส่งออกข้าวอยู่ที่ตันละ 512.67 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18.02%

ทั้งนี้ หากต้องการผลักดันให้การส่งออกข้าวในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 11 ล้านตัน การส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) จะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 8.6 แสนตัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะมีความต้องการสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลจีนตามสัญญาซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของ 1 แสนตันที่ 6 ตามสัญญา 1 ล้านตัน รวมทั้งยังมีโอกาสขายข้าวเพิ่มให้กับฟิลิปปินส์ ที่มีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น

ด้านสถานการณ์ราคาข้าว พบว่า ราคาส่งออกยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยราคาข้าวขาวของไทยใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนาม ที่อยู่ประมาณ 400-410 ดอลลาร์/ตัน ทำให้ผู้ซื้อหันมาซื้อข้าวไทย ส่วนราคาข้าวหอมมะลิก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงตันละ 1,149 ดอลลาร์ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้าที่เคยทะลุตันละ 1,200 ดอลลาร์ เนื่องจากขณะนี้ข้าวฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาด แต่เชื่อว่าราคาจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป เพราะยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกรมการค้าต่างประเทศก็มีแผนที่จะออกไปขยายตลาดข้าวคุณภาพสูงของไทย ทั้งในตลาดจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในวันที่ 18 ต.ค. 2561 หน่วยงานนำเข้าข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ (เอ็นเอฟเอ) จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวขาว 25% ปริมาณ 2.5 แสนตัน ในรูปแบบรัฐต่อเอกชน (จีทูพี) เบื้องต้นคาดว่า ผู้ส่งออกข้าวไทยจะยื่นเสนอราคาประมูลขายข้าวให้กับทางเอ็นเอฟเอครั้งนี้ด้วย แต่ไม่ได้คาดหวังจะชนะการประมูล เนื่องจากงบประมาณที่เอ็นเอฟเอกำหนดซื้อข้าวในครั้งนี้ไม่เกิน 420 ดอลลาร์/ตัน เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะเท่ากับ 360 ดอลลาร์/ตัน หรือทอนกลับเป็นข้าวเปลือกเหลือ 6,000 บาท/ตันเท่านั้น