posttoday

เล็งเสนอยกเลิกห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่เก็บภาษีในอัตราสูงแทน

02 ตุลาคม 2561

"พาณิชย์"เตรียมถก คลัง สาธารณสุข หาทางออกบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบปัญหาเพียบ เล็งเสนอยกเลิกการห้ามนำเข้า แต่ขึ้นภาษีในอัตราสูงดูแลแทน

"พาณิชย์"เตรียมถก คลัง สาธารณสุข หาทางออกบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบปัญหาเพียบ เล็งเสนอยกเลิกการห้ามนำเข้า แต่ขึ้นภาษีในอัตราสูงดูแลแทน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงฯได้รับการร้องเรียนจากภาครัฐและเอกชนเข้ามาอย่างต่อเนื่องถึงกรณีการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะในทางปฏิบัติได้ก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง ทั้งการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศ การลักลอบจำหน่าย ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป และยังพบว่ามีการใช้กฎหมายเอาผิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันเกิดขึ้นด้วย

ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ กระทรวงฯจะนัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็วๆนี้ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางในการดำเนินการ

สำหรับ ข้อเสนอในเบื้องต้นมีหลายทางเลือก เช่น การยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และเปิดให้มีการนำเข้าไปตามปกติ แต่เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีข้อสรุปให้ได้ก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เพราะกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถชี้ได้ เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และในกรณีหากอนุญาตให้มีการนำเข้า จะมีมาตรการดูแลเพิ่มเติมอย่างไร เช่น การเก็บภาษีนำเข้า โดยอาจจะเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงๆ และใช้เงินในส่วนนี้มาเป็นกองทุนในการดูแลปัญหาด้านสุขภาพ หรือการมีมาตรการกำหนดไว้สำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้า เป็นต้น

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไปพิจารณาข้อดี ข้อเสียให้ได้ก่อน แล้วมาเสนอผลกับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะยกเลิกการห้ามนำเข้าหรือไม่ โดยหากได้ข้อสรุปว่าจะห้ามนำเข้าต่อไป ก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะประกาศกระทรวงพาณิชย์ก็ยังคงบังคับใช้อยู่ แต่ถ้าอยากให้ยกเลิกการห้ามนำเข้า กระทรวงฯ ก็จะทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณายกเลิกกฎกระทรวงฯต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้มีหลายส่วน เช่น คนที่เดินทางไปต่างประเทศและได้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวเข้ามา ก็จะถูกดำเนินคดี เพราะมีการนำเข้าสินค้าที่ห้ามนำเข้า หรือบางกรณีผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าและได้ทำการสูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีกรณีเกิดขึ้นแล้วทั้งกับคนไทยและนักท่องเที่ยว และยังพบปัญหาการลักลอบจำหน่าย ทั้งในตลาดทั่วไปและทางออนไลน์

ขณะที่ ข้อเสนอของเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ ได้ยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวน และได้ดำเนินการยื่นเรื่องนี้ต่อหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเป็นการละเมิดสิทธิในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน และขอให้ลดระดับการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนมาเป็นการควบคุมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับให้ข้อมูลอีกว่าไทยดำเนินการสวนทางกับนานาชาติ เพราะปัจจุบันมีเพียง 30 ประเทศทั่วโลกหรือ 15% ของประเทศในโลกที่ห้ามนำเข้าแบบเบ็ดเสร็จแบบไทย ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ได้ห้าม และไทยก็ยังไม่มีหลักฐานการวิจัยหรือทางวิชาการยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมากกว่าบุหรี่มวน

ด้านผู้ผลิตบุหรี่ ได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณชนว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าการสูบบุหรี่มวน เพราะการเผาทำให้เกิดสารที่เป็นอันตรายมากกว่าการสูบบุหรี่มวน เพราะผู้สูบสามารถปรับระดับการสูบ หรือเพิ่มความเข้มข้นของสารที่สูบได้