posttoday

ดันเงินคนจนสะพัด2แสนล.

28 กันยายน 2561

"สนธิรัตน์" ตั้งเป้าปี 2562 ผลักดันใช้บัตรคนจนสะพัด 2 แสนล้าน เพิ่มเท่าตัวจากปีนี้

"สนธิรัตน์" ตั้งเป้าปี 2562 ผลักดันใช้บัตรคนจนสะพัด 2 แสนล้าน  เพิ่มเท่าตัวจากปีนี้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 11.4 ล้านคน ที่นำเงินในบัตรไปซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทั้งร้านค้าแบบใช้เครื่องรูดบัตร (อีดีซี) และร้านค้าแบบใช้มือถือรับชำระค่าสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น "ถุงเงินประชารัฐ" ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560-20 ก.ย. 2561 มียอดซื้อสินค้ารวม 4.1 หมื่นล้านบาท เป็นยอดการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกรกว่า 2 หมื่นล้านบาท ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก

"ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ที่ใช้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตรที่นำมาวางจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐนี้ คาดว่าจะมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคได้ถึง 5 รอบ คิดเป็นวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท ในปี 2561 เพราะเงินได้ลงไปถึงผู้ผลิตสินค้าในชุมชน เกษตรกรจริงๆ และเมื่อคนเหล่านี้มีรายได้ก็นำเงินไปจับจ่ายใช้สอยต่อ ทำให้เศรษฐกิจในระดับฐานรากมีการหมุนเวียน" นายสนธิรัตน์ กล่าว

สำหรับปี 2562 กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันให้สินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกร ให้มีช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้เพิ่มมากขึ้น เพราะหากมีสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้เพิ่ม ก็จะช่วยเพิ่มวงเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท

สำหรับสินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกรที่ขายดีในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ได้แก่ ข้าวสาร ผักและผลไม้ตามฤดูกาล เช่น แตงโม ทุเรียน มะนาว สับปะรด กระเทียม หอมแดง ขนมเปี๊ยะเต้าส้อ เค้ก กล้วยตาก กล้วยฉาบ ข้าวแต๋น น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนการเชื่อมโยง เครือข่ายและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าชุมชน สินค้าเกษตรเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ กระทรวงมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเชื่อมโยงเพื่อ สร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีร้านค้าและผู้ผลิตเข้าร่วมประมาณ 500 ราย มีการจับคู่ซื้อขายกว่า 90 ราย วงเงินสะพัดกว่า 5 ล้านบาท และจะมีการซื้อขายต่อเนื่องในอนาคตอีก และในวันที่ 27 ก.ย. 2561 ได้จัดที่ จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกัน