posttoday

เผย 3 ปัจจัยคนเลือกซื้อถุงยางอนามัย-เน้นราคา 40-70 บ.ต่อกล่อง

20 กันยายน 2561

วันทัชเผย 3 ปัจจัยที่คนเลือกซื้อถุงยางอนามัย-ปรับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ ดันส่วนแบ่งเพิ่ม 35%

วันทัชเผย 3 ปัจจัยที่คนเลือกซื้อถุงยางอนามัย - ปรับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ ดันส่วนแบ่งเพิ่ม 35%

นายกัณห์ กุลอัฐภิญญา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ ทีเอ็นอาร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ วันทัช และเพลย์บอย เปิดเผยว่า จากการสำรวจเเละเก็บข้อมูลของบริษัทพบว่า 3 ปัจจัยที่คนไทยเลือกซื้อถุงยางอนามัย ได้แก่

1. แบรนด์ คนส่วนใหญ่เลือกซื้อจากแบรนด์ที่รู้จัก วางขายในช่องทางที่ดี มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

2. ขนาดและเรื่องของกลิ่น

3. ราคา ส่วนใหญ่มีค่าเฉลี่ยที่ 40-70 บาท/กล่อง

นายกัณห์ เผยด้วยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าวันทัชให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นพร้อมเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาสู่กลุ่มมิลเลนเนียม จากเดิมที่เจาะกลุ่ม 30 ปีขึ้นไป รวมถึงการสื่อสารผ่านสื่อโซเชียลด้วยการสร้างคอนเทนต์ ทำให้มียอดสั่งซื้อผ่านออนไลน์เติบโตกว่า 30%

ทั้งนี้ จากแผนธุรกิจดังกล่าว ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ วันทัชเติบโตขึ้น 2% สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดมาอยู่ที่ 26% แม้ว่าตลาดถุงยางอนามัยในไทยช่วง 6 เดือนแรกจะมีมูลค่าตลาดรวมลดลงประมาณ 1.1% และจำนวนชิ้นที่ขายลดลง 2.8% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยจากค่านิยมเกี่ยวกับวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิดที่เปลี่ยนแปลงไป สะท้อนจากตัวเลขการเจ็บป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน บริษัทจะใข้งบการตลาด 10% ของยอดขาย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เกต และช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมถึงเตรียมออกบรรจุภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ วัน สวีท โรแมนซ์ บรรจุ 12 ชิ้นในรูปแบบกระป๋อง เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีแต่บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบกล่อง โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2562 เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นจากปรับตัวของผู้เล่นในตลาด อีกทั้งวางแผนบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มซีแอลเอ็มวี โดยเฉพาะเมียนมาร์และลาว

" ภาพรวมในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะตลาดถุงยางอนามัยจะกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยตลอดทั้งปีนี้จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1,450 ล้านบาท ส่วนปริมาณชิ้นอาจลดลง 1-2% จากปีก่อนที่ 72 ล้านชิ้น (ไม่รวมถุงยางที่แจกจ่ายโดยภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไร)" นายกัณฑ์ กล่าว 

สำหรับเป้าหมายของแผนธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดไม่น้อยกว่า 35% ภายในปี 2563 และจากนั้นตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ถุงยางในประเทศภายในปี 2568 จากปัจจุบันวันทัชอยู่อันดับ 2 รองจากดูเร็กซ์ที่มีส่วนแบ่งที่ 50%