posttoday

ชง"กบง."อุ้มก๊าซแอลพีจีอีก

03 กันยายน 2561

ชง กบง. 5 ก.ย. ขยายวงเงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาแอลพีจีเพิ่มอีกกว่า 3,000 ล้าน หวังพยุงให้ถึงสิ้นปี

ชง กบง. 5 ก.ย. ขยายวงเงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาแอลพีจีเพิ่มอีกกว่า 3,000 ล้าน หวังพยุงให้ถึงสิ้นปี

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 5 ก.ย.นี้ซึ่งมีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานเป็นประธาน จะมีการพิจารณาอนุมัติขยายกรอบวงเงินการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มเติม หลังจากล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีติดลบเกินกรอบวงเงินเดิมที่ กบง.เคยอนุมัติไว้ 3,000 ล้านบาทเพื่อนำมาตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ไว้ที่ 363 บาท จนถึงสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กบง.ได้อนุมัติให้นำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาใช้หมุนเวียนเพิ่มเติมเนื่องจากบัญชีแอลพีจีติดลบ โดยกำหนดกรอบวงเงินไว้ 3,000 ล้านบาท แต่สถานการณ์ราคาแอลพีจีตลาดโลกสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้การตรึงราคาแอลพีจีถังละ 363 บาท มีผลให้ปัจจุบันบัญชีแอลพีจีได้ติดลบกว่า 3,511 ล้านบาท ซึ่งเกินกรอบที่กำหนดไว้ จึงต้องขยายวงเงินเพิ่ม ส่วนจะได้รับอนุมัติเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับ กบง.จะตัดสินใจ

ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 26 ส.ค. 2561 บัญชีน้ำมันอยู่ที่ 2.93 หมื่นล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 3,155 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ เหลือสุทธิ 2.61 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้นโยบายกระทรวงพลังงานได้กำหนดที่จะตรึงราคาแอลพีจีระดับ 363 บาท/ถังขนาด 15 กก.ถึงสิ้นปี ดังนั้นกรอบวงเงินที่จะดูแลราคาแอลพีจีมีแนวโน้มว่าจะต้องขยายอีกไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มราคาแอลพีจีตลาดโลกสิ้นปีจะมีทิศทางขาขึ้นจากความต้องการเพิ่มสูงในฤดูหนาวของประเทศแถบสหรัฐและยุโรป

นอกจากนี้ จะต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับราคาดีเซลขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑล ที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายจะดูแลไม่ให้เกินระดับ 30 บาท/ลิตรนั้น ล่าสุดราคาบางปั๊มขยับไปถึงระดับ 29.99 บาท/ลิตรแล้ว ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกเป็นสำคัญว่าจะมีทิศทางอย่างไร แต่ระยะสั้นยังคงผันผวนไปในทิศทางค่อนข้างสูงจากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน และชี้นำให้หลายประเทศงดการนำเข้าน้ำมันทำให้ราคาตลาดโลกเริ่มกดดันให้ขยับขึ้น และหากส่งผลให้ดีเซลเกิน 30 บาท/ลิตร กองทุนจะต้องควักตรึงราคาดีเซลเพิ่มขึ้นอีก

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า การที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตรเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เนื่องจากดีเซลเป็นน้ำมันพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคขนส่งหากมีการปรับขึ้นจะกระทบให้ค่าขนส่งสูงขึ้น และสะท้อนไปยังราคาสินค้าให้ปรับตัวขึ้นได้

นายสุรศักดิ์ อยู่คงพัน นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า การที่รัฐจะตรึงราคาแอลพีจีถัง 15 กก. ไว้ที่ระดับ 363 บาท ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่รัฐต้องพิจารณาว่าระดับใดควรจะเหมาะสมต่อฐานะกองทุนน้ำมันฯ หากใช้เงินอุดหนุนมากเกินไป ที่สุดประชาชนก็จะต้องกลับมาแบกรับภาระจ่ายคืนในอนาคตเช่นกัน