posttoday

รอเคาะภาษีหั่นราคาอีโคคาร์พลังงานไฟฟ้า คาดเริ่มต้นคันละ5แสน

03 กันยายน 2561

สศอ.คาดสรุปความชัดเจนนโยบายรถยนต์อีโคอีวีปีนี้ ขณะที่ส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามอ่วม คาดเสียประโยชน์กว่า 2 หมื่นล้าน

สศอ.คาดสรุปความชัดเจนนโยบายรถยนต์อีโคอีวีปีนี้ ขณะที่ส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามอ่วม คาดเสียประโยชน์กว่า 2 หมื่นล้าน

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้นโยบายการเปลี่ยนแปลง (ทรานส์ฟอร์ม) รถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ไปสู่อีโคคาร์ที่ผสมผสานพลังงานไฟฟ้า (อีโคอีวี) จะมีความชัดเจนในปีนี้ ซึ่งนโยบายดังกล่าวนี้เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ที่มีองค์ประกอบยานยนต์ไฟฟ้าไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ในไทย

ขณะเดียวกัน จะช่วยให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีรายได้น้อยไปถึงปานกลางที่เป็นลูกค้าหลักของอีโคคาร์สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ได้ ในเบื้องต้นประเมินว่าหากเป็นอีโคคาร์ไฮบริดราคาจะอยู่ระดับ 5-6 แสนบาท/คัน ขณะที่อีโคอีวีราคาไม่เกิน 7 แสนบาท/คันแน่นอน

สำหรับเรื่องส่งออกรถยนต์ของไทยไปยังเวียดนาม หลังไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการตรวจสอบรถยนต์นำเข้า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีการส่งออกเพียง 1.27 หมื่นคัน จากเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 6.5 หมื่นคัน ขณะเดียวกันยังคาดว่าตลอดทั้งปี ไทยจะส่งออกรถยนต์ได้ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 70% จากราคารถยนต์เฉลี่ยคันละประมาณ 5 แสนบาท ดังนั้นจะส่งผลให้ไทยสูญเสียรายได้กว่า 2.25 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า ประกาศกรมสรรพสามิตในกฎหมายเพิ่มเติมที่จะออกมานั้นน่าจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตลงครึ่งหนึ่ง เหลือ 6% จากเดิม 12% เช่นเดียวกับภาษีสรรพสามิตไฮบริด ที่ลดลงครึ่งหนึ่งจากนโยบายยุทธศาสตร์รถยนต์อีวี จนต่ำสุดอยู่ที่ 4% ขณะที่ภาษีสรรพสามิตอีวีอยู่ระดับ 2% เมื่อภาษีอีโคคาร์ลดลงจะจูงใจให้น่าลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องมีนโยบายนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความลักลั่นของอัตราภาษีสรรพสามิตอีโคคาร์และไฮบริด จนทำให้ผู้ถือบัตรส่งเสริมอีโคคาร์ 2 ลังเลการลงทุน เพราะรถยนต์ไฮบริดน่าสนใจกว่า นอกจากนี้ประกาศกรมสรรพสามิตยังกำหนดเงื่อนไขชิ้นส่วนอีวีที่ควรมีการลงทุนในไทย ซึ่งเอื้อให้เกิดการลงทุนแค่รถไฮบริด จากทั้งหมดที่ควรส่งเสริมรถ 5 รายการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดไว้ ทำให้อีก 4 รายการยังไม่มีการลงทุน ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไม่ได้ประโยชน์

ภาพ เอเอฟพี