posttoday

โซเชียลยึดโฆษณาดิจิทัล

31 สิงหาคม 2561

โดย...จะเรียม สำรวจ

โดย...จะเรียม สำรวจ

แม้ว่าสัดส่วนการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยยังไม่ทะยานขึ้นไปมีสัดส่วนเท่ากับในหลายๆประเทศทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 40% จากเม็ดเงินโฆษณาโดยรวม แต่จากอัตราการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในแต่ละปีโตไม่ต่ำกว่า 20% ก็ส่งผลให้ปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของไทยทะลุสู่หลักหมื่นล้านบาทไปเรียบร้อย และในปี 2561 นี้คาดการณ์กันว่า จะก้าวเข้าสู่ 1.5 หมื่นล้านบาท

ปัจจัยหลักที่ทำให้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลยังคงมีการขยายตัวสวนกระแสสื่อโฆษณาอื่นๆ หลักๆ ยังคงมาจากการที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเสพติดสื่อโซเชียลมีเดีย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ทุกสินค้าหันไปให้ความสำคัญกับการใช้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อดิจิทัลมากขึ้น เพื่อตามพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ทัน

นอกจากนี้ การที่แพลตฟอร์มต่างๆ พากันพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ มาเอาใจผู้บริโภคให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และมีความหลากหลายมากขึ้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลเติบโต โดยเฉพาะใน สื่อโซเชียลมีเดีย

อาภาภัทร บุญรอด ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กันตาร์ อินไซท์ ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในช่วงครึ่งปีแรกที่ ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 6,684 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่า เม็ดเงินจะปรับเพิ่มเป็น 8,289 ล้านบาท หรือมีเม็ดเงินรวมทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีเม็ดเงินรวมทั้งปีอยู่ที่ 12,402 ล้านบาท

สินค้าที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลเติบโตมากที่สุดในปีนี้ คือ กลุ่มธุรกิจมอเตอร์ไซค์ และรถจักรยาน โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตรา การเติบโตไม่ต่ำกว่า 179% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามด้วยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 124% กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์สำนักงาน 118% กลุ่มธุรกิจเสื้อผ้าและชุดชั้นใน 106%

สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีการใช้งบโฆษณาดิจิทัลมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ กลุ่มธุรกิจรถยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 12% หรือคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,722 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มธุรกิจสื่อสาร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 11% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,657 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คิดเป็นสัดส่วน 8% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,256 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจธนาคาร คิดเป็นสัดส่วน 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,052 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจนมพร้อมดื่ม คิดเป็นสัดส่วน 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 819 ล้านบาท เป็นต้น

ราชศักดิ์ อัศวศุภชัย เหรัญญิกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คือ นอกจากอัตราการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาจะใช้เพิ่มขึ้นแล้ว ในส่วนมูลค่าการใช้เม็ดเงินยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย เห็นได้จากการใช้เม็ดเงินจาก 300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 600 ล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจมอเตอร์ไซค์ที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ผู้ประกอบการเริ่มมีการผสมผสานการใช้สื่อ ประกอบกับปัจจุบันตลาดบิ๊กไบค์มีการขยายตัวสูง หลังจากผู้ประกอบการหลายค่ายเริ่มย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย

ด้าน พัชรี เพิ่มวงศ์อัศวะ ประชาสัมพันธ์สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่กลุ่มสินค้าดูแลผิวกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 อีกครั้งของการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล หลังจากปีที่ผ่านมาปล่อยให้กลุ่มธนาคารตีตื้นขึ้นมาเป็นอันดับ 3 เนื่องจากปีนี้แบรนด์สินค้าลักซ์ชัวรี่เริ่มหันมาให้ความสนใจใช้สื่อโฆษณาดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ปีนี้กลุ่มสินค้าดูแลผิวกลับมาทวงตำแหน่งอันดับ 3 ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ หากดูไปที่ช่องทางสื่อที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุด เฟซบุ๊ก ยังคงเป็นอันดับ 1 โดยมีมูลค่าการใช้เม็ดเงินโฆษณาอยู่ที่ 4,479 ล้านบาท ตามด้วย ยูทูบ มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาอยู่ที่ 2,690 ล้านบาท ดิสเพลย์ 1,517 ล้านบาท เสิร์ชเอนจิ้น 1,424 ล้านบาท ครีเอทีฟ 1,340 ล้านบาท โซเชียล 1,179 ล้านบาท ไลน์ 1,147 ล้านบาท และออนไลน์วิดีโอ 791 ล้านบาท

จากความนิยมในการใช้สื่อโฆษณาในเฟซบุ๊กและยูทูบ ส่งผลให้ปัจจุบันทั้งสองสื่อมีส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 50% ของมูลค่าสื่อโฆษณาดิจิทัล ซึ่งจากความนิยมในสื่อดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันทั้งสองสื่อกลายเป็นเรดโอเชียนสำหรับการเลือกใช้สื่อโฆษณาของสินค้าต่างๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้สินค้าหลายตัวเริ่มมองหาโอกาสในสื่อใหม่ในตลาดบลูโอเชียน

แนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์กลายเป็นสื่อที่มีอัตราการเติบโตในด้านของการใช้สื่อโฆษณาดิจิทัล ด้วยการมีอัตราการเติบโตสูงถึง 276% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่หากมองในด้านของการใช้เม็ดเงินยังถือว่าน้อย คือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 90 ล้านบาท

เช่นเดียวกับ ไลน์ ปีนี้มีการขยายตัวของการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลสูงถึง 83% เนื่องจากมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นไลน์ แอ็กเคานต์ หรือไลน์ทีวี ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีสินค้าต่างๆ ให้ความสนใจเข้าไปซื้อสื่อโฆษณามากขึ้น
  
อีกหนึ่งสื่อที่น่าจับตามอง เพราะมีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าไปเติบโตสูงถึง 77% คือ อินสตาแกรม หรือไอจี เนื่องจากเป็นหนึ่งสื่อที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง และเป็นสื่อที่มีพลังในการโน้มน้าวการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ปัจจุบันเริ่มมีสินค้าต่างๆ สนใจโฆษณาสินค้าในไอจีมากขึ้น