posttoday

ปตท.ลุยธุรกิจใหม่ บุกเทคโนโลยี-รถไฟฟ้า-สาธารณูปโภค

23 สิงหาคม 2561

ปตท.วางแผนลงทุนครั้งใหญ่มุ่งธุรกิจเอสเคิร์ฟ ขณะที่ไทยออยล์รอผู้ถือไฟเขียวโครงการพลังงานสะอาด 1.5 แสนล้าน

ปตท.วางแผนลงทุนครั้งใหญ่มุ่งธุรกิจเอสเคิร์ฟ ขณะที่ไทยออยล์รอผู้ถือไฟเขียวโครงการพลังงานสะอาด 1.5 แสนล้าน

บริษัทในเครือ ปตท.ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ โดย ปตท.ให้ความสนใจขยายการลงทุนไปยังธุรกิจนิวเอสเคิร์ฟนอกเหนือจากแผนธุรกิจเดิม ขณะที่ไทยออยล์ประกาศลงทุนโครงการพลังงานสะอาด มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จะใช้เงิน 1.4 แสนล้านบาท ซื้อกิจการโกลว์ พลังงาน สำหรับ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เตรียมดึงพันธมิตรเข้าร่วมประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณ

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า ได้ตั้งงบลงทุน 5 ปี วงเงิน 2.45 แสนล้านบาท สำหรับการลงทุนในธุรกิจนิวเอสเคิร์ฟ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี การลงทุนในรถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ การตัดสินใจลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น การเข้าซื้อซองประมูลรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน เพราะ ปตท.ทำธุรกิจในพื้นที่อีอีซีมานาน การเข้าร่วมโครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสนับสนุนนโยบายการลงทุนของรัฐบาลในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นอนาคตสำคัญของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันยังสนใจพัฒนาพื้นที่มักกะสันอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและตัดสินใจร่วมมือกับพันธมิตรในการเข้าประมูล

อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ย.นี้ นอกจากจะประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล การนำบริษัทถ่านหินเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียจะมีการอนุมัติผลการศึกษาลงทุนรถไฟฟ้าด้วย

นายพิจินต์ กล่าวอีกว่า การลงทุนธุรกิจเอสเคิร์ฟไม่รวมกับงบลงทุนปกติของบริษัทที่แผน 5 ปี จะกำหนดไว้และปลายเดือน ธ.ค. จะมีการพิจารณาแผนการลงทุน ปี 2562 และบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับการลงทุน โดยล่าสุดมีสภาพคล่อง 3.95 แสนล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าการเข้าประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณที่กำหนดให้ยื่นข้อเสนอในเดือน ก.ย.นี้ นายยงยศ ครองพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมประมูล เช่น เชฟรอน และหากการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ บริษัทพร้อมเปิดรับข้อเสนอจากพันธมิตรรายอื่น

นอกจากนี้ ยังสนใจซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในแถบอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้ ในเบื้องต้นมีมูลค่าการลงทุน 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมั่นใจว่ายังมีแหล่งเงินรองรับพอโดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 3,400 ล้านดอลลาร์

ด้าน นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการ หน่วยงานการเงินองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล กล่าวว่า ปีนี้จะใช้งบลงทุนใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 700-800 ล้านดอลลาร์ สำหรับใช้ซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์กรดบริสุทธิ์เทเรพาธิค และธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต มูลค่าประมาณ 4,148 ล้านบาท และโครงการลงทุนโรงโอเลฟินส์แห่งใหม่ โดยใช้แนฟทาและก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นวัตถุดิบหลัก

นายชัชชัย สิริวิชช์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ กล่าวว่า วันที่ 27 ส.ค.นี้ บริษัทจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติลงทุนโครงการพลังงานสะอาด วงเงินลงทุน 4,800 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลาการลงทุน 4 ปี (2562-2566) ทำให้กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 500-600 ล้านดอลลาร์/ปี

นายชัชชัย กล่าวว่า บริษัทมีกระแสเงินสด 8 หมื่นล้านบาท เตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันมีสินทรัพย์ 2.4 แสนล้านบาท โดยบริษัทจะรักษาสมดุลระหว่างการจ่ายปันผลกับการลงทุน