เซ็นทรัลลุยเวียดนามหมื่นล.

เซ็นทรัล เปิดแผนลงทุนยาวในเวียดนาม ทั้ง 5 ธุรกิจเดิม และ 3 กลุ่มใหม่ หวังดันรายได้ 4.4 หมื่นล้านโตปีละ 2 หลัก

นายฟิลิปเป้ โบรเอียนิโจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม และบิ๊กซี เวียดนาม เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามอีก 5 ปีนับจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.65 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจในเครือให้มีจำนวนสาขารวมไม่ต่ำกว่า 720 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้รวมที่ประมาณ 250 สาขา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 ที่มีจำนวนสาขารวมอยู่ที่ 210 สาขา

สำหรับปัจจัยที่ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพและเศรษฐกิจของเวียดนามมีการขยายตัว อย่างต่อเนื่อง โดยในสิ้นปีนี้คาดการณ์ กันว่าจีดีพีของประเทศเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 7% สูงกว่าจีดีพีประเทศไทยประมาณ 1 เท่าตัว

"ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าไปขยายธุรกิจในประเทศเวียดนามด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะเวียดนามเป็นตลาดที่น่าสนใจและเติบโตดีมีประชากรมากกว่า 90 ล้านคน นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อสูง และมีกลุ่มชนชั้นกลางจำนวนมาก จึงถือเป็นโอกาสดีที่บริษัทจะเข้าไปขยายธุรกิจ" นายฟิลิปเป้ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนาม 5 ประเภท ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจอาหาร ธุรกิจร้านค้าแฟชั่น ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจร้านค้าออนไลน์ กระจายอยู่ทั่วประเทศเวียดนามจำนวน 37 จังหวัด รวมพื้นที่ค้าปลีกกว่า 7 แสนตารางเมตร

ขณะที่ธุรกิจใหม่ที่เข้าไปทำในประเทศเวียดนามปีนี้ มีอยู่ด้วยกัน 3 ธุรกิจ คือ 1.ร้าน ลุกคูล (Look Kool) เป็นร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป พื้นที่เฉลี่ย 250 ตารางเมตร เปิดไปแล้ว 26 สาขา 2.ร้านโฮมมาร์ท (Home Mart) เป็นร้านประเภทดีไอวายตกแต่งและซ่อมเซมบ้าน  เปิดแล้ว 1 สาขา และ 3.ร้านเฮลโลบิวตี้ ร้านจำหน่ายสินค้าความงาม เปิดแล้วที่ภาคเหนือของเวียดนาม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโมเดลสเปเชียลตี้สโตร์

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายธุรกิจเดิมต่อเนื่อง โดยปีนี้จะขยายบิ๊กซีอีก 1 สาขาในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ และเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในต้นปี 2562 เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้ ธุรกิจในเวียดนามจะมีรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาท