posttoday

กทพ.เลื่อนประมูลด่วนภูเก็ตขยับทีโออาร์หั่นค่าผ่านทาง

22 สิงหาคม 2561

กทพ.คาดโครงการทางด่วนภูเก็ตเปิดประมูลปีหน้า ส่องบพุ่ง พันล้าน ชาวบ้านเฮเล็งลดค่าทางด่วนจูงใจคนใช้

กทพ.คาดโครงการทางด่วนภูเก็ตเปิดประมูลปีหน้า ส่องบพุ่ง พันล้าน ชาวบ้านเฮเล็งลดค่าทางด่วนจูงใจคนใช้

แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า  กทพ.ได้รายงานให้คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) กทพ.รับทราบถึงโครงการก่อสร้างทางด่วนช่วงกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ยังติดปัญหาหลายด้านยังไม่สามารถเปิดประมูลได้ทันปีนี้

ทั้งนี้ จะทำให้วงเงินลงทุนก่อสร้างโครงการเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านบาท เป็น 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท จากค่าวัสดุก่อสร้างและต้นทุนอื่นๆ ที่เพิ่มมากขึ้นตามราคาตลาดโลก จึงต้องเสนอรายงานกระทรวงคมนาคมถึงการปรับตัวเลขวงเงินลงทุน ดังนั้น โครงการดังกล่าวยังคงไม่มีความชัดเจนทั้งด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การปรับร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ตลอดจนขั้นตอนการเปิดประมูลโครงการ ทำให้คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 18 เดือน เพื่อให้ได้ตัวเอกชนผู้ชนะโครงการ

สำหรับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินพบว่าต้องปรับตัวเลขค่าเวนคืนใหม่เป็น 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,400 ล้านบาท จากเดิม 2,200 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินตามแนวก่อสร้างนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่ผ่านไป ดังนั้น จึงต้องเร่งเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมมาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน

ด้านการร่างทีโออาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดใหม่ เพื่อปรับเงื่อนไขให้สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยจะเสนออายุสัมปทานเพิ่มเป็น 35 ปี จากเดิม 30 ปี ควบคู่ไปกับการปรับลดค่าผ่านทางเพื่อจูงใจให้ประชาชนมาใช้มากขึ้นจากเดิมรถยนต์ 4 ล้อ ราคา 20 บาท และรถจักรยานยนต์ราคา 15 บาท ซึ่งจะปรับให้ค่าผ่านทางทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เท่ากันที่ 15 บาท หรืออาจปรับลดค่าผ่านทางรถจักรยานยนต์ลงไปอีก

ทั้งนี้ เพื่อให้รายได้ของโครงการในภาพรวมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตัวเลขผลตอบแทนทางการเงินอยู่ที่ 4% อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของขั้นตอนการเสนอโครงการนั้นยังคงต้องผ่านฝ่ายนโยบายอีกหลายชั้นเริ่มจากการเสนอบอร์ด กทพ. ขออนุมัติทีโออาร์ใหม่ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมและ ครม.ต่อไป หลังจากนั้นยังคงต้องผ่านทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) รวมถึงการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกและกำกับดูแลมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2556

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวถูกบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Project Pipeline) ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตามแผนเดิมนั้นจะเริ่มก่อสร้างในปี 2562-2563 ก่อนเปิดให้บริการในปี 2567 โดยจะเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร  แบ่งเป็นสำหรับรถยนต์ 2 ช่อง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่อง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนทางหลวงรวมถึงใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ

ภาพประกอบข่าว