posttoday

ทุ่ม2พันล.บุกอีวีแท็กซี่ นำร่อง101คันให้บริการทั่วกรุง

17 สิงหาคม 2561

อีวี โซไซตี้ เดินหน้าลงทุนรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้า 100% เริ่มให้บริการ 9 ก.ย.นี้ ตั้งเป้าปี'62เพิ่มเป็น1,000คัน ด้านสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า แนะรัฐจูงใจผู้บริโภคเพิ่ม

อีวี โซไซตี้ เดินหน้าลงทุนรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้า 100% เริ่มให้บริการ 9 ก.ย.นี้ ตั้งเป้าปี'62เพิ่มเป็น1,000คัน ด้านสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า แนะรัฐจูงใจผู้บริโภคเพิ่ม

นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการ บริษัท อีวี โซไซตี้ ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นเจ้าแรกในไทย ซึ่งระยะแรกจะมี 101 คัน เริ่มให้บริการวันที่ 9 ก.ย.นี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเห็นโอกาสทางธุรกิจ ที่จะช่วยให้ต้นทุนลดลง จากการประหยัดเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับรถแท็กซี่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมัน พร้อมตอบสนองกับนโยบายรัฐบาลด้วย

นอกจากนี้ จะลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงและจุดเติมเชื้อเพลิง บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่อาคารจอดรถ 2 และ 3 รวมถึงจุดจอดรถระยะยาว งบลงทุน 200 ล้านบาท ส่วนในปี 2562 ตั้งเป้าขยายจำนวนรถให้บริการครบ 1,000 คัน และเตรียมขยายความร่วมมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ เพื่อให้การสนับสนุนการอัดประจุไฟฟ้านอกสถานที่เพิ่มเติม ตามสถานีน้ำมัน ซัสโก้ จากปัจจุบันที่มีความร่วมมืออยู่ราว 30 แห่งทั่วประเทศ
 
นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี ผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในไทยในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จะเริ่มให้ความสำคัญจนมีสัดส่วนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปที่เท่ากัน โดยผู้บริโภคในไทยจะหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะจุดแข็งของยานยนต์ไฟฟ้าที่มีต้นทุนที่ประหยัดกว่า เช่น ต้นทุนซ่อมบำรุงและต้นทุนเชื้อเพลิงของยานยนต์ไฟฟ้า เฉลี่ยอยู่ที่ 90 สตางค์/กิโลเมตร และ 70 สตางค์/กิโลเมตร ส่วนต้นทุนซ่อมบำรุงและต้นทุนเชื้อเพลิงของรถยนต์ทั่วไป อยู่ที่ 1.5 บาท/กิโลเมตร และ 2.5 บาท/กิโลเมตร ตามลำดับ อีกทั้งจากต้นทุนแบตเตอรี่ที่ลดลง 12-15% ในทุกๆ ปี ซึ่งจะทำให้ราคายานยนต์ไฟฟ้า ถูกลง และมาตรการสนับสนุนทางภาษีของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นผู้บริโภค

นายหลิว ซู่เหลียง ผู้จัดการทั่วไปแผนกการขายภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ กล่าวว่า ไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญในการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยบริษัทจะติดตามยอดขาย ซึ่งหากอนาคตมีสัญญาณความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นและได้รับการตอบรับที่ดี ก็มีโอกาสที่บริษัทจะพิจารณาเข้ามาตั้งโรงงานเพื่อเป็นฐานการผลิตในไทย

ด้าน นายยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ระบุว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 3 ล้านคัน โดยในปีที่ผ่านมาจีนมีการเติบโตของรถอีวี 100% สูงกว่า 4.82 แสนคัน ส่วนไทยเริ่มมีสัญญาณเติบโตขึ้นจากการขยายตัวของรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีจำนวนกว่า 1 หมื่นคัน รถอีวี 100% เกือบ 100 คัน และจักรยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 1,000 คัน

"พร้อมกันนี้ ต้องการให้ภาครัฐจูงใจการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภาคประชาชน ผ่านมาตรการสนับสนุนและลดหย่อนภาษี จากราคาที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยหันมาใช้รถอีวีเพิ่มเป็น 1.2 ล้านคันในปี 2579" นายยศพงษ์ กล่าว