ทีวีดิจิทัลยังอ่วม! ขายโฆษณายาก ดิ้นหารายได้เสริม

ทีวีดิจิทัล ชี้สถานการณ์ยังแย่ ระบุเวลาโฆษณาเหลือมากถึง 30-70% หันปรับแผนหาธุรกิจอื่นเสริม

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท กล่าวถึงกรณีภาครัฐรายงานทีวีดิจิทัลมีผู้ชมเพิ่มขึ้นว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิทัลในขณะนี้สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากช่วงเวลาโฆษณาของแต่ละช่องมีสัดส่วนเฉลี่ยเหลืออยู่ที่ประมาณ 30-70% เพราะจำนวนผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าของสินค้าก็มีช่องทางในการเลือกใช้สื่อมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าวในส่วนของบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เห็นได้จากช่วงเวลาของการขายโฆษณาที่ยังมีสัดส่วนเหลือมากถึง 70%

ขณะเดียวกัน ในส่วนของช่องที่มีเรตติ้งอันดับต้นๆ ปัจจุบันก็มีช่วงเวลาเหลือเฉลี่ย 30% ขณะที่ก่อนหน้าที่จะมีทีวีดิจิทัล ช่องทีวีดังกล่าวจะขายโฆษณาได้เต็มเวลา ซึ่งจากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการแต่ละช่องต้องออกมาปรับแผนดำเนินธุรกิจ ด้วยการหันมาหารายได้เสริมจากธุรกิจนันบรอดแคสต์เช่นเดียวกับบริษัทที่ต้องหันมาหารายได้เสริมจากการให้เช่าที่ดิน 50 ไร่ การหารายได้เสริมจากธุรกิจไวร์เลสบรอดแบนด์ทีวีบนคลื่นความถี่ย่าน 2.6 กิกะเฮิรตซ์ ธุรกิจค้าปลีกเอ็มคอต มาร์ท และธุรกิจพลังงานในชื่อ เอ็ม โซลาร์

ด้านสถานีช่อง 3 ปัจจุบันมีการหารายได้เสริมจากการขายคอนเทนต์ละครไปในตลาดต่างประเทศ เช่นเดียวกับช่องเวิร์คพอยท์ ที่หารายได้เสริมจากการขายคอนเทนต์รายการวาไรตี้ในต่างประเทศ และช่อง 8 ของบริษัท อาร์เอส หารายได้เสริมจากการทำธุรกิจความงามยี่ห้อไลฟ์สตาร์