posttoday

เอ็มจีชิงขึ้นนำตลาดรถ ส่งกระบะ-เอ็มพีวี-เก๋งขนาดกลางลุย

13 สิงหาคม 2561

เอ็มจี เพิ่มกำลังการผลิตเร่งส่งมอบครึ่งปีหลัง ขยายผู้แทนจำหน่ายสร้างความเชื่อมั่นต่อเนื่อง ย้ำกลยุทธ์เสริมทัพผลิตภัณฑ์

เอ็มจี เพิ่มกำลังการผลิตเร่งส่งมอบครึ่งปีหลัง ขยายผู้แทนจำหน่ายสร้างความเชื่อมั่นต่อเนื่อง ย้ำกลยุทธ์เสริมทัพผลิตภัณฑ์

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปี 2562 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ในระดับ 5 หมื่นคัน หลังจากที่ปี 2561 คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ 3 หมื่นคัน

ทั้งนี้ ยอดขาย 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2561 มียอดขายอยู่ที่ 12,028 คัน เติบโตขึ้นสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย เอ็มจี แซดเอส ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีถึงกว่า 1,500 คัน/เดือน ซึ่งมีโอกาสทะลุเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ 1.5 หมื่นคันภายใน
1 ปี หลังการเปิดตัว

“เรายังคงกระตุ้นการทำตลาดอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด ซึ่งเน้นหนักไปที่การเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการในการส่งมอบให้กับผู้บริโภค ล่าสุดบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 15 งาน/ชั่วโมง (Job per Hour) จากในช่วงต้นปีอยู่ที่ 10 งาน/ชั่วโมง” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ แผนระยะยาวภายในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 1 แสนคัน หรือติดอันดับ 1 ใน 5 ด้านยอดขายของผู้ประกอบการรถยนต์ชั้นนำในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์หลักที่จะเป็นตัวผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ เอ็มจี แซดเอส และเอ็มจี 3 อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะผลักดันรถยนต์นั่งขนาดกลางในการทำตลาดสร้างความคึกคักอีกครั้ง

ขณะที่กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ยืนยันว่าจะนำรถกระบะเข้ามาผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาว ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างจุดแข็งเพิ่ม โดยอยู่ระหว่างการศึกษาการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ โดยจะต้องสามารถแข่งขันได้ในตลาด รวมถึงจะต้องดูความพร้อมของโรงงานในประเทศอีกด้วยเพื่อรองรับการผลิตรถกระบะในประเทศ

อย่างไรก็ตาม แผนการวางจำหน่ายรถอเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) จำนวน 11 ที่นั่งนั้นตามแผนเดิมจะต้องเปิดตัวไปในปี 2560 แต่ยังติดปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนของกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้จึงได้มีการปรับแผนสำหรับรถกลุ่มดังกล่าวเพื่อปรับจำนวนที่นั่งลงเหลือ 9 ที่นั่ง และพยายามปรับปรุงราคาเพื่อให้เหมาะสมกับตลาด

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเอ็มจีถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วจากยอดขายที่สะท้อนการตอบรับของผู้บริโภค รวมถึงภาพลักษณ์แบรนด์ที่สร้างความมั่นใจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์และเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ปัจจุบันมีจำนวน 85 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 120 แห่งในปีนี้