posttoday

สมาคมค้าปลีกแนะ ปรับวิธีดันยอดขาย

10 สิงหาคม 2561

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชี้ผู้ประกอบการยังใช้ เร่งขยายชิงทำเลดีดันยอด ส่งผลพื้นที่เทียร์ 1 กทม.และหัวเมืองใหญ่เต็ม แนะปรับวิธีโต

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชี้ผู้ประกอบการยังใช้ เร่งขยายชิงทำเลดีดันยอด ส่งผลพื้นที่เทียร์ 1 กทม.และหัวเมืองใหญ่เต็ม แนะปรับวิธีโต

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ ผู้ประกอบการยังคงมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และกลยุทธ์ หลักที่ใช้ในการทำตลาดยังคงเน้นไปที่รูปแบบเดิม คือ การขยายสาขาเพิ่ม ส่งผลให้ทำเลในพื้นที่เทียร์ 1 อย่างกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ มีธุรกิจค้าปลีกเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ ขณะที่ทำเลในเทียร์ 2 อย่างเมืองรองก็เริ่มอยู่ในภาวะพื้นที่เต็มเช่นกัน เนื่องจากมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าไปขยายสาขาจำนวนมาก

สำหรับพื้นที่ค้าปลีกในเทียร์ที่ 3 แม้ว่าขณะนี้จะยังมีทำเลให้เข้าไปขยายธุรกิจได้อีกมาก แต่ผู้ประกอบการก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เนื่องจาก ผู้บริโภคในพื้นที่ค้าปลีกดังกล่าวยังมีกำลังซื้อไม่ดี เช่นเดียวกับพื้นที่ค้าปลีกในเทียร์ที่ 4 และ 5

อย่างไรก็ดี จากช่องว่างทางธุรกิจที่มีดังกล่าวอยากให้ผู้ประกอบการค้าปลีกหันมาปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ จากเดิมอาจเน้นการขยายห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เปลี่ยนเป็นการขยายห้าง ค้าปลีกให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนประชากร และกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายที่เข้าไปทำตลาด

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการก็ควรหันมาให้ความสนใจใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำตลาดมากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการค้าปลีกหันมาทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์บ้างแล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจค้าปลีกมีมูลค่าประมาณ 3 ล้านล้านบาท ขณะที่ธุรกิจออนไลน์มีมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการทำธุรกิจแบบบีทูบี(ธุรกิจกับธุรกิจ) 60% แบบบีทูซี (ธุรกิจกับผู้บริโภค) 29% และการทำธุรกิจ ในรูปแบบบีทูจี (ธุรกิจกับรัฐ) 11% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจไม่สะท้อนความเป็นจริงมากนัก เนื่องจากปัจจุบันยังมีการเก็บข้อมูลออนไลน์ค่อนข้างซ้ำซ้อน

"ในยุคที่การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกมีความรุนแรง และออนไลน์กำลังบุกหนัก หากผู้ประกอบการไม่ปรับตัวเม็ดเงินของธุรกิจค้าปลีกในฝั่งออนไลน์อาจแซงหน้าธุรกิจค้าปลีกที่เป็นหน้าร้านได้" นายวรวุฒิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้บริโภคมากขึ้น แต่สมาคมมั่นใจว่าธุรกิจออนไลน์จะยังไม่ทำให้ธุรกิจค้าปลีกเสียหลัก เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกมีบริการที่ออนไลน์ให้ไม่ได้ เช่น เทคโนโลยี บริการ และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ออนไลน์ไม่สามารถทำได้

นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการค้าปลีกควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะรายเล็ก คือ การจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้า เพราะการมีข้อมูลของผู้บริโภคจำนวนมากถือว่ามีความสำคัญอย่างมากกับการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน เนื่องจากจะทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค