ไทยยูเนี่ยนกำไรหดแพ้คดีสหรัฐ-ค่าบาท

ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เจอพิษสำรองคดีต่อต้านการผูกขาดสหรัฐ-เงินบาทแข็งค่าฉุดไตรมาส 2 กำไรสุทธิวูบเหลือ 9 ล้าน

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2 ปี 2561 จำนวน 9.64 ล้านบาท ลดลง 99.32% จากงวดไตรมาสเดียวกันปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 1,420 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดขาย 3.41 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% จากค่าเงินบาทแข็งค่าและ ยอดขายปลาทูน่าที่ลดลง แต่หากแยกผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนยอดขายจะลดลงเพียง 0.1% ส่วน 6 เดือนยอดขายอยู่ที่ 6.38 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ก่อนหน้า หรือลดลง 1.5% หากแยก ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ ไตรมาส 2 บริษัทมีรายการ ค่าใช้จ่ายพิเศษทางกฎหมาย บริษัท Chicken of the Sea ซึ่งเป็นบริษัทในเครือได้ทำ ข้อตกลงชำระค่าชดเชยกับร้านค้าปลีก Walmart ภายใต้คดีต่อต้านการผูกขาด (Antitrust) และคดีอื่นๆ โดยบริษัท Chicken of the Sea ได้มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษทางกฎหมายคิดเป็นมูลค่า 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,465 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สะท้อนความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคดีนี้ และค่าใช้จ่ายนี้เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษไม่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานปกติของบริษัท

ขณะที่งวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 878.62 ล้านบาท ลดลง 69.20% เมื่อเปรียบเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,853.36 ล้านบาท

คณะกรรมการอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.25 บาท จ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานงวดครึ่งปีและกำไรสะสม โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 ก.ย. 2561