posttoday

เซ็นทรัลจัดทัพใหม่ ลุยอี-คอมเมิร์ซ

06 สิงหาคม 2561

กลุ่มเซ็นทรัลปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพื่อขับเคลื่อนจากโลกค้าปลีกออฟไลน์ไปสู่ค้าปลีกออนไลน์

กลุ่มเซ็นทรัลปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพื่อขับเคลื่อนจากโลกค้าปลีกออฟไลน์ไปสู่ค้าปลีกออนไลน์

*****************************

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

การเคลื่อนไหวของกลุ่มเซ็นทรัล หลังจากกลุ่มเซ็นทรัลร่วมทุนกับเจดีดอทคอม เปิดบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ เพื่อดำเนินธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส ล่าสุดจัดทัพกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซใหม่ เพื่อรุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานออฟฟิศเมท เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ปรับโครงสร้างกลุ่มอี-คอมเมิร์ซใหม่ โดยในส่วนของเว็บไซต์เซ็นทรัลออนไลน์จะนำไปควบรวมเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มของเจดี เซ็นทรัล ( www.jd.co.th ) เพื่อขับเคลื่อนเว็บไซต์ของเจดีเซ็นทรัลให้ดำเนินการตลาดเชิงรุก

ในส่วนของอี-คอมเมิร์ซแต่ละหน่วยธุรกิจ ได้แก่ 1.พาวเวอร์บาย จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.ซูเปอร์สปอร์ต จำหน่ายอุปกรณ์กีฬา 3.บีทูเอส จำหน่ายอุปกรณ์การเรียน และ 4.ออฟฟิศเมท จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน เป็นต้น วางเป้าหมายให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญกับอี-คอมเมิร์ซ โดยระยะ 5 ปี สร้างรายได้เพิ่มจากเดิมวางไว้ 6-7% เพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวม จากปัจจุบันออฟฟิศเมทเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ในอี-คอมเมิร์ซได้เกือบ 20%

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในเครือเซ็นทรัล เพื่อลดความซ้ำซ้อนและรองรับกับการแข่งขันของมาร์เก็ตเพลสของคู่แข่งที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะสงครามราคา และทำให้แต่ละหน่วยธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานสามารถบริหารงานได้รวดเร็ว ขณะที่สินค้าของทั้งกลุ่มเซ็นทรัลจะนำไปขายบนแพลตฟอร์มเจดี เซ็นทรัล ทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่บริษัท ซีโอแอล จะปรับแพลตฟอร์มมุ่งการเป็นค้าปลีกออนไลน์รูปแบบบีทูบี หรือจำหน่ายสินค้าให้กับองค์กรและธุรกิจ และขยายไลน์สินค้านอกเหนือจากผลิตภัณฑ์สำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและเภสัชภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮเรกา กลุ่มผลิตภัณฑ์โรงงาน เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งการรุกเข้าสู่ธุรกิจบีทูบี เพราะมองว่าออฟฟิศเมทมีศักยภาพและสามารถสร้างการเติบโตได้

“ตลาดบีทูซีหรือการจำหน่ายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคมีการแข่งขันรุนแรงมาก ส่วนบีทูบียังมีช่องว่างให้ทำตลาดและต้องทำก่อนที่คู่แข่งอย่างอาลีบาบาที่ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาด นอกจากนี้ ตลาดบีทูบียังมีมูลค่าสูงถึง 1.8-2 ล้านล้านบาท ถือว่าใหญ่มาก เมื่อเทียบกับตลาดบีทูซีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะเหลือผู้แข่งในตลาดลาซาด้า เจดี เซ็นทรัล ส่วนอีก 1 ราย คืออเมซอนยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดในไทย แต่เชื่อว่าในที่สุดก็จะเข้ามา”วรวุฒิ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนรีแบรนด์ออฟฟิศเมท เนื่องจากแบรนด์เดิมสะท้อนถึงการจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์สำหรับสำนักงาน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีกว่าจะสร้างการรับรู้ใหม่ของแบรนด์ สำหรับการมุ่งสู่ธุรกิจบีทูบีที่มีความหลากหลายจะผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโต 100% จากปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ 1.24 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10%

นั่นคือการจัดทัพใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อขับเคลื่อนจากโลกค้าปลีกออฟไลน์ไปสู่ค้าปลีกออนไลน์ในยุคของโอทูโอ (Online to Offline) ค้าปลีกต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกช่องทาง