posttoday

มหากิจศิรีควัก2พันล. ตั้งโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม

01 สิงหาคม 2561

เจ้าพ่อเนสกาแฟ "ประยุทธ" ลุยธุรกิจเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์พี แปดสิบ หวังรายได้ 5 ปี กวาด 1 หมื่นล้าน

เจ้าพ่อเนสกาแฟ "ประยุทธ" ลุยธุรกิจเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์พี แปดสิบ หวังรายได้ 5 ปี กวาด 1 หมื่นล้าน

นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์พีแปดสิบ (P80) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานที่ จ.ลำพูน สำหรับการดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มลำไยสกัดเข้มข้นภายใต้แบรนด์พีแปดสิบ เนเชอรัล เอสเซ้นส์ (P80 Natural Essence) เพื่อวางจำหน่ายทั่วโลก วางเป้าหมาย 5 ปี ปั้นแบรนด์ไทยก้าวสู่โกลบอลแบรนด์ด้วยการมีรายได้ราว 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการแตกธุรกิจใหม่ ของกลุ่มเนสกาแฟอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป หลังจากก่อนหน้านี้ได้ซื้อกิจการอีเลฟเว่นสตรีท และพิซซ่า ฮัท เป็นต้น โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาและวิจัยลำไยภายใต้งบ 1,500 ล้านบาท เพื่อต่อยอดนอกเหนือจากน้ำลำไยสกัดเข้มข้น ในส่วนพีแปดสิบ วางตำแหน่งเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์สกัด เข้มข้นซึ่งมีมูลค่าตลาดรวม 1.77 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับซุปไก่สกัด และรังนกสกัด เป็นต้น

"โอกาสตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์มีศักยภาพเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะหากภาวะเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่ดีขึ้น คนไทยมีกำลังการซื้อ ซึ่งในแต่ละปีตลาดมีอัตราการเติบโต 5-6% ต่อปี เนื่องจากคนไทยใส่ใจสุขภาพและมองหาเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ตอบสนองทางด้านฟังก์ชันนัล โดยพบว่าสถิติจากกระทรวงสาธารณสุข ที่คนไทยใช้เงินจ่ายเรื่องสุขภาพปีละเกือบ 4 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ" นายประยุทธ กล่าว

ขณะที่แผนตลาดต่างประเทศเน้น รูปแบบจับมือร่วมกับดิสทริบิวเตอร์ใน ท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญ ในช่วงแรกเน้นบุกกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี นำร่องนำสินค้าไปจำหน่ายกัมพูชาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา และกำลังขยายสู่ตลาดเมียนมา ลาว เวียดนาม ส่วนจีนได้เซ็นสัญญา ดิสทริบิวเตอร์กว่างโจว เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง คาดว่าเริ่มส่งออกปลายปีนี้ รวมทั้งวางแผนสู่เมืองต่างๆ นอกจากนี้อยู่ระหว่างเจรจาดิสทริบิวเตอร์ฝรั่งเศสและเบลเยียม รวมถึงวางแนวขยายไปสู่ตลาดสหรัฐ

สำหรับการกำลังผลิตของโรงงาน มีราว 5-10 ล้านขวด/ปี บนพื้นที่กว่า 140 ไร่ รองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ เบื้องต้นวางเป้าหมายรับซื้อปริมาณลำไย 7,000-1 หมื่นตัน/ปี หรือคิดเป็นมูลค่า รวมกว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัทใช้งบการตลาดกว่า 20-30% เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เจาะกลุ่มเป้าหมาย 25-60 ปี วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และไดเรกต์เซลส์ขนาด 50 มล. โดยเฉลี่ยราคา 75 บาท

นายประยุทธ กล่าวว่า ปีแรกการดำเนินธุรกิจตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ในไทย 1,000 ล้านบาท และ ต่างประเทศ 1,000 ล้านบาท