posttoday

สมรภูมิสุกี้-ชาบูเดือด หั่นราคาดุ 5 ปีเสี่ยงเจ๊ง

23 กรกฎาคม 2561

นับวันธุรกิจร้านอาหารจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันมีร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

จะเรียม สำรวจ

นับวันธุรกิจร้านอาหารจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันมีร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกลยุทธ์ที่จะสามารถดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้นั่นก็คือ การลดราคาอาหาร และธุรกิจที่มีการตัดราคาขายอาหารกันมากที่สุดคือ สุกี้และชาบู

ณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท นีโอสุกี้ไทยเรสเทอรองส์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารชาบูแบรนด์ นีโอสุกี้ เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ และชาบูแบบบุฟเฟ่ต์มีการแข่งขันราคาสูงมาก โดยระดับราคาที่แข่งขันกันรุนแรงที่สุดคือ การตัดราคาขายต่ำกว่า 200-300 บาท ซึ่งกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบดังกล่าวบริษัทมองว่าระยะยาวไม่น่าจะอยู่ได้ โดยเฉพาะแบรนด์โลคอลและร้านของผู้ประกอบการรายย่อย

จากการแข่งขันตัดราคาในรูปแบบดังกล่าว คาดว่าอีก 5 ปี ผู้ประกอบการที่ทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวอาจต้องปิดตัวลงและหายไปจากตลาด เนื่องจากระดับราคาอาหารที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ควรอยู่ในระดับประมาณ 400-600 บาทขึ้นไป เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ส่วนอีกกลุ่มที่น่าจะยังอยู่ได้คือแบรนด์ที่มีสายป่านยาว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของนีโอสุกี้นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาร้านอาหารแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดในรูปแบบซื้อกลับบ้าน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนเมืองวัยทำงาน โดยทำเลที่จะนำร้านอาหารดังกล่าวเข้าไปเปิดให้บริการจะเน้นไปที่แนวรถไฟฟ้า เบื้องต้นคาดว่าภายในปีหน้าจะได้ข้อสรุปพร้อมเปิดให้บริการ

ณัฐพล กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทพัฒนาร้านอาหารแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด เพราะต้องการให้ธุรกิจร้านอาหารในเครือมีความหลากหลายและสร้างยอดขายมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเบื้องต้นคาดว่าจะพัฒนาแบรนด์ขึ้นเองหรือซื้อแฟรนไชส์ จากปัจจุบันที่มี 3 แบรนด์หลักคือ ชาบูนีโอสุกี้ กังฟูเป็นหมูตุ๋นหม้อไฟ และซุนวูเป็นบาร์บีคิวปิ้งย่าง

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจของนีโอสุกี้ปีนี้ ได้ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท แบ่งการสร้างโรงงานใหม่ 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 50 ล้านบาท จะใช้ไปกับการทำกิจกรรมทางการตลาด โดยในส่วนของโรงงานใหม่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว จากปัจจุบัน 20 สาขา

ทั้งนี้ ปัจจุบันชาบูนีโอสุกี้มีทั้งหมด 20 สาขา โดยสาขาล่าสุดเปิดให้บริการที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และครึ่งปีหลังนี้จะเปิดที่เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ โดยขยายเพิ่มปีละ 2-3 สาขา ขณะที่กังฟูหมูตุ๋นหม้อไฟ ยังอยู่ในช่วงทดลองตลาดมี 1 สาขา ที่อาคารมิดทาวน์ และซุนวูบาร์บีคิวปิ้งย่างมี 1 สาขาที่เดอะ พาร์ค ราชพฤกษ์ ซึ่งจากจำนวนร้านอาหารที่เพิ่มขึ้น คาดว่าสิ้นปี 2561 จะมียอดขายรวมอยู่ที่ 370 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีที่ผ่านมา

ณัฐพล กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารประเภทชาบูสุกี้ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 1.5-2 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% เนื่องจากเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง จึงทำให้ร้านอาหารประเภทสุกี้และชาบู ซึ่งถือเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความสนใจ