posttoday

ก.ท่องเที่ยวสั่งจัดทำแผนที่แหล่งท่องเที่ยวทางถ้ำทั่วประเทศป้องกันซ้ำรอยถ้ำหลวง

13 กรกฎาคม 2561

รมว.ท่องเที่ยวเตรียมลงพื้นที่ภูเก็ตหามาตรการเร่งด่วน ขอความร่วมมือเอกชนป้องกันอุบัติเหตุเรือล่ม พร้อมสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทางถ้ำทั่วประเทศและทำแผนที่ละเอียด

รมว.ท่องเที่ยวเตรียมลงพื้นที่ภูเก็ตหามาตรการเร่งด่วน ขอความร่วมมือเอกชนป้องกันอุบัติเหตุเรือล่ม พร้อมสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทางถ้ำทั่วประเทศและทำแผนที่ละเอียด

นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมมาตรการรักษาความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางถ้ำและทางน้ำว่า นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมลงพื้นที่หารือกับผู้ว่าราชการจ.ภูเก็ต และกองทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อออกมาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้าเพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุเรือล่มไม่ให้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงมรสุมอยู่ โดยการให้กรมเจ้าท่าปักธงแสดงสัญลักษณ์ว่าสามารถออกเรือได้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นธงแดงห้ามออกเรือโดยเด็ดขาด ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องให้เจ้าของเรือให้ความร่วมมือด้วย เพราะขณะนี้ ยังไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมตรงนี้โดยตรง และเป็นเรื่องที่ภาครัฐยังกังวลอยู่ แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะหายไป 10% แต่ก็ยังมีการท่องเที่ยวตามปกติ จึงหวั่นที่จะเกิดเหตุซ้ำรอย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เวลากรมอุตุนิยมวิทยามีพยากรณ์อากาศเกี่ยวกับคลื่นลมมรสุมออกมา การออกเรือจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกัปตันเรือ ขณะที่กรมเจ้าท่ามีอำนาจแค่เตือน แต่ไปห้ามไม่ได้

นอกจากนี้ ก่อนการขึ้นเรือต้องมีการอบรมให้ผู้โดยสารรับทราบถึงการดูแลความปลอดภัยของตัวเองทุกครั้งเหมือนกับการขึ้นเครื่องบิน และเสื้อชูชีพที่ใช้บนเรือต้องมีมาตรฐาน ไม่ใช่เป็นแค่เสื้อพยุงตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย ส่วนลูกเรือและกัปตันต้องสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้เวลาเกิดเหตุ

ขณะที่มาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยวในถ้ำนั้น โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการป้องกัน และให้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจเกี่ยวภูมิศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น และจัดทำแผนที่อย่างละเอียด เพิ่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกรณีถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เนื่องจากเวลาเกิดเหตุ การมีข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

อย่างไรก็ดี ในระยะยาวได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ไปดูว่ามีมาตรการดูแลเพียงพอหรือไม่ และเห็นตรงกันว่า การท่องเที่ยวในสถานที่บางแห่ง จำเป็นต้องมีการควบคุม เพราะบางแห่งไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองได้ จำเป็นต้องติดต่อเจ้าที่นำทาง และหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะมีแผนช่วยเหลืออะไรบ้าง โดยให้กลับมานำเสนอแผนดังกล่าวใหม่ภายใน 30 วัน และทางกระทรวงท่องเที่ยวจะสรุปหลักคิดออกมาให้ได

"ในที่ประชุมทางตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชระบุว่า ถ้าเป็นอุทยานแห่งชาติมีข้อบังคับการเข้าออกของนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน แต่วนอุทยานแห่งชาติ เช่น ถ้ำหลวง เป็นเพียงอุทยานเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่น้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดและนักท่องเที่ยว ไม่มีงบดูแลด้านความปลอดภัย เหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ แต่จะปรับให้มีมาตรฐานมากขึ้น และจะใช้ถ้ำหลวงโมเดลเป็นมาตรฐานในการจัดการดูแลถ้ำที่รับผิดชอบทั้งหมด รวมทั้งให้มีการสำรวจถ้ำที่อยู่ในวัดด้วย อีกทั้งต่อไปต้องมีการสำรวจถ้ำทุกแห่งจะได้จัดการได้เวลาเกิดเหตุ เพราะที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลอะไรเลย ทำให้ต้องไปใช้ข้อมูลของต่างประเทศที่จัดทำไว้แทน" นายอภิชาติ กล่าว