ดึงกองถ่ายหนังบูมรายได้ ตั้งเป้าปีนี้3พันล้าน

"วีระศักดิ์" เร่งส่งเสริม กองถ่ายทำต่างชาติมาไทย หลัง 5 เดือนแรกมีเงินเข้ามา 1,300 ล้าน  ยอมรับยังไม่คึกคักเหตุเศรษฐกิจโลกซบ

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมใช้เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Thailand International Film Destination Festival 2018) ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันที่ 17 ก.ค. เพื่อส่งเสริมกองถ่ายต่างประเทศให้เลือกไทยเป็นจุดหมายในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ได้วางจุดขายด้านความหลากหลายทั้งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมใน 8 คลัสเตอร์ท่องเที่ยว ได้แก่ เขตอารยธรรมล้านนา เขตอารยธรรมอีสานใต้ เขตฝั่งทะเลตะวันออก เขตฝั่งทะเลตะวันตก เขตอันดามัน เขตมรดกด้านวัฒนธรรม เขตวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง และเขตลุ่มเจ้าพระยาตอนกลาง

สำหรับในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากกองถ่ายต่างประเทศประมาณ 3,000 ล้านบาท จากการขอถ่ายทำภาพยนตร์ จำนวน 810 เรื่อง โดยประเทศ ไทยมีมาตรการส่งเสริมด้วยการคืนเงินจากการใช้จ่ายระหว่างถ่ายทำในไทยให้ 15% และหากเลือกใช้นักแสดงจากในไทยได้เงินคืนเพิ่มอีก 5% ที่ผ่านมามีภาพยนตร์ 2 เรื่องจากสหรัฐได้รับการอนุมัติ คือ Changeland และ Triple Threat  มีการใช้จ่ายเงินในไทยเกิน 50 ล้านบาท และยังมีอีก 4-5 เรื่องที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว โดยอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารทางการเงิน ส่วนอีก 1 เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ ขณะที่ภาพยนตร์ที่มีแผนใช้เงินในไทยมากกว่า 50 ล้านบาท กำลังเตรียมเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยปีนี้ มีอีกประมาณ 2-3 เรื่อง

อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการ รอประกาศกฎกระทรวง เพื่อโอนย้ายกองกิจการภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ต่างประเทศ สังกัดกรมการท่องเที่ยว ให้ไปอยู่ภายใต้กระทรวงวัฒนธรรมแทน ซึ่งหลังจากนี้งานส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งหมดจะถูกโอนตามไปด้วย แต่ในขณะนี้ยังไม่มีประกาศออกมา กรมการท่องเที่ยวก็ยังต้องรับหน้าที่เดิมไปก่อน

นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ในปี 2561 คาดว่ารายได้จากกองถ่ายต่างประเทศจะยังอยู่ที่ 3,000 ล้านบาทเท่าเดิม เนื่องจากยังมีปัจจัยด้านสภาพเศรษฐกิจโลกที่น่ากังวล ประกอบกับการแข่งขันของเพื่อนบ้าน ที่ต้องการดึงกองถ่ายเข้าประเทศของตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 2561) มีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งสังเกตว่าการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เติบโตหวือหวา ดังนั้นแนวโน้มตลอดปีนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับเท่าเดิม ซึ่งถือว่าน่าพอใจแล้ว

"ปีนี้ได้งบประมาณอินเซนทีฟที่ใช้สำหรับคืนเงินกองถ่ายตามมาตรการ 60 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการแน่นอน โดยจะพยายามเร่งตรวจเอกสารและอนุมัติภาพยนตร์ที่ยื่นเรื่องเข้ามาภายใน 2 เดือน หลังจากที่ผ่านมาเพิ่งอนุมัติไปเพียง 2 เรื่องเท่านั้น สาเหตุที่ต้องใช้เวลามากเนื่องจากต้องตรวจสอบเอกสารการใช้จ่ายอย่างละเอียดว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่ เพื่อให้ถูกต้องต่อการนำเงินภาษีของประเทศมาใช้" นายอนันต์ กล่าว