posttoday

เล็งขยับค่าแท็กซี่เพิ่มพ่วงตัดแต้มยกระดับคุณภาพบริการ

15 มิถุนายน 2561

ผลวิจัยโครงสร้างค่าโดยสาร เสนอปรับเพิ่ม หลังพบรายได้คนขับน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่แท็กซี่ไทยติดอันดับถูกสุดในโลก

ผลวิจัยโครงสร้างค่าโดยสาร เสนอปรับเพิ่ม หลังพบรายได้คนขับน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่แท็กซี่ไทยติดอันดับถูกสุดในโลก

นายสุเมธ องกิตติกุล นักวิชาการชำนาญการขนส่ง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงผลวิจัยการปรับโครงสร้างค่าโดยสารรถแท็กซี่ ว่า การปรับค่าโดยสารต้องมาพร้อมกับคุณภาพบริการที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้ขับขี่แท็กซี่มีรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 200-300 บาท/วัน

ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อวันของผู้ขับแท็กซี่อยู่ที่ 1,400 บาท ขณะที่รายจ่ายสูงถึง 1,100 บาท ส่งผลให้คุณภาพบริการสะท้อนตามต้นทุนที่ถูกจำกัดกรอบไว้ ดังนั้นทีดีอาร์ไอมองว่าควรปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร 10% ให้เหมาะสมกับบริบทปัจจุบันและต้นทุนของผู้ขับขี่ ซึ่งควรมีรายได้เฉลี่ยต่อวันที่ 1,600-1,800 บาท หรือราว 400-500 บาทหลังหักต้นทุนแล้ว

สำหรับแนวทางปรับราคาค่าโดยสารใหม่ 10% ทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะเป็นผู้พิจารณาแยกค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ 1.ค่าโดยสารตามระยะทาง 2.ค่ารถติด 50 สตางค์ (สต.) ต่อนาที จากเดิมที่คิดค่าโดยสารตามระยะทางและความเร็วของยานพาหนะที่ไม่เป็นไปตามจริงหากเกิดกรณีรถติด ส่งผลให้เกิดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ดังนั้นแนวทางใหม่จะคิดราคาตามเวลาที่เดินทางจริงร่วมกับเวลารถติด เช่น ใช้บริการแท็กซี่ระยะทาง 5 กิโลเมตร (กม.) มีค่าโดยสารตามระยะทาง 50 บาท แต่ช่วงดังกล่าวมีปัญหารถติดเสียเวลาเดินทางมากกว่าเวลาปกติ 20 นาที ก็อาจจะคิดเพิ่มไปอีกนาทีละ 10 บาท ทำให้ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าโดยสารทั้งหมด 60 บาท เป็นต้น

นอกจากนี้ การเปรียบเทียบค่าโดยสารรถแท็กซี่ทั่วโลก พบว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในชาติที่ค่าโดยสารต่อ 5 กม.ต่ำสุดในโลก อยู่ที่ 66.50 บาท ขณะที่ประเทศจีนอยู่ที่ 154 บาท ญี่ปุ่น 255 บาท แอฟริกาใต้ 220 บาท อังกฤษ 353 บาท และสหรัฐอเมริกา 409 บาท โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเมืองหลักในอาเซียน พบว่า เมืองหลวงสิงคโปร์ค่าโดยสารสูงกว่า 146% เมืองกัวลาลัมเปอร์สูงกว่า 35% เมืองมะนิลาสูงกว่า 10.5% และฮ่องกงสูงกว่า 286% โดยสาเหตุนั้นมาจากประเทศไทยยังไม่มีการคำนวณค่าโดยสารในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของวันและค่าธรรมเนียมนอกเหนือจากปกติ

นายสุเมธ กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาต้องมาพร้อมกับการกำกับดูแลเข้มข้นขึ้น โดยจะเสนอให้ ขบ.ออกมาตรการตัดแต้มแท็กซี่จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เช่น ตัด 3 แต้มเมื่อพูดจาหยาบคาย กิริยาไม่สุภาพ ตัด 5 แต้มเมื่อทิ้งผู้โดยสารกลางทาง ตัด 6 แต้มเมื่อปฏิเสธผู้โดยสาร ตัด 12 แต้มเมื่อไม่กดมิเตอร์หรือเหมาเที่ยว เป็นต้น ส่วนบทลงโทษ คือพักใบอนุญาตและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ