มนุษย์ทำงานยุค4.0องค์กรโตความรู้ต้องกว้าง
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชี้เทรนด์คนทำงาน 4.0 ต้องรู้กว้าง รับมือองค์กรแตกธุรกิจหลากหลาย ชูคอนเซ็ปต์มนุษย์เงินเดือนหลอมรวมชีวิตกับการทำงาน
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชี้เทรนด์คนทำงาน 4.0 ต้องรู้กว้าง รับมือองค์กรแตกธุรกิจหลากหลาย ชูคอนเซ็ปต์มนุษย์เงินเดือนหลอมรวมชีวิตกับการทำงาน
น.ส.พรรษชล จารุวร ฝ่ายธุรกิจทรัพยากรบุคคล บริษัท เวิร์ค เวนเจอร์ เปิดเผยในงานเสวนาทิศทางตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล จัดโดยทรู ดิจิทัล พาร์ค ว่า จากผลสำรวจของบริษัทพบว่าผู้ประกอบการมีความต้องการตำแหน่งงานด้านการขายและการตลาด ฝ่ายบุคคล ไอที รวมถึงด้านวิศวกรรม และด้านลูกค้าสัมพันธ์ ในขณะที่ผู้สมัครงานมองหางานด้านการขาย การตลาด โดยเฉพาะการตลาดดิจิทัลที่กำลังมาแรงมาก ตามด้วยไอที และฝ่ายทรัพยากรบุคคล
"ตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ชีวิตการทำงานของคนในยุคนี้ก็ยังปรับเปลี่ยนไปด้วยในโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจว่าต้องการคนที่ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง หลังจากนั้นต้องพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือยุคนี้มีการหลอมรวมชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเข้าด้วยกัน (Work-Life Integration) เมื่อก่อนจะได้ยินคำว่าการสร้างสมดุลชีวิตกับการทำงาน แต่ในปัจจุบันชีวิตการทำงานจะเป็นแบบการหลอมรวมชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเข้าด้วยกัน" น.ส.พรรษชล กล่าว
นายอดิภัทร ชัยชนะสกุล รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนาองค์กร และฝ่ายทรัพยากรบุคคลและนวัตกรรม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า องค์กรมีการแตกธุรกิจไปหลายประเภท เพราะไม่สามารถพึ่งพาธุรกิจเพียงด้านเดียวได้ ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มทรูได้ขยายครอบคลุมไปหลายด้าน จึงต้องการบุคลากรที่มีทักษะหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน เมื่อก่อนอาจเน้นที่บุคลากรด้านไอทีและวิศวกรรม แต่ตอนนี้บริษัทต้องการทั้งคนที่รู้ลึกและรู้กว้าง ซึ่งคนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จะช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ผลักดันองค์กรและธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม
สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับ Work-Life Integration กลุ่มทรูได้เรียนรู้และปรับเอาแนวทางของสตาร์ทอัพมาใช้ มีการสร้างสตาร์ทอัพขึ้นภายในองค์กร คิดเป็นประมาณ 20% ของบุคลากร 2 หมื่นคน ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้คล้าย สตาร์ทอัพ พัฒนาคนให้มีทักษะหลากหลายเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งด้าน บุคลากรจะมีโอกาสทำงานอื่นนอกจากหน้าที่ประจำ เป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่เพื่อรองรับอนาคตการทำงานจะมีสองงานเหมือนเมเจอร์และไมเนอร์
นายอานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ หัวหน้าฝ่ายบุคคล บริษัท วงใน กล่าวว่า บุคลากรจะมีโอกาสทำงานอื่นนอกจากหน้าที่ประจำ เป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่ เมื่อก่อนคิดแค่เพียงต้องรู้ลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่สมัยนี้และต่อไปในอนาคตจะต้องรู้หลายๆ เรื่อง เปรียบได้เหมือนกับซี่ของหวีที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีการปรับเปลี่ยนทุก 3-5 ปี ว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติม ขณะที่บริษัทมีพนักงาน 220 คน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญ เช่น โปรแกรมเมอร์ การตลาด นักบัญชี ราว 20% และอีก 80% เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญทั่วไป