posttoday

มนุษย์ทำงานยุค4.0องค์กรโตความรู้ต้องกว้าง

12 มิถุนายน 2561

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชี้เทรนด์คนทำงาน 4.0 ต้องรู้กว้าง รับมือองค์กรแตกธุรกิจหลากหลาย ชูคอนเซ็ปต์มนุษย์เงินเดือนหลอมรวมชีวิตกับการทำงาน

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชี้เทรนด์คนทำงาน 4.0 ต้องรู้กว้าง รับมือองค์กรแตกธุรกิจหลากหลาย ชูคอนเซ็ปต์มนุษย์เงินเดือนหลอมรวมชีวิตกับการทำงาน

น.ส.พรรษชล จารุวร ฝ่ายธุรกิจทรัพยากรบุคคล บริษัท เวิร์ค เวนเจอร์ เปิดเผยในงานเสวนาทิศทางตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล จัดโดยทรู ดิจิทัล พาร์ค ว่า จากผลสำรวจของบริษัทพบว่าผู้ประกอบการมีความต้องการตำแหน่งงานด้านการขายและการตลาด ฝ่ายบุคคล ไอที รวมถึงด้านวิศวกรรม และด้านลูกค้าสัมพันธ์ ในขณะที่ผู้สมัครงานมองหางานด้านการขาย การตลาด โดยเฉพาะการตลาดดิจิทัลที่กำลังมาแรงมาก ตามด้วยไอที และฝ่ายทรัพยากรบุคคล

"ตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ชีวิตการทำงานของคนในยุคนี้ก็ยังปรับเปลี่ยนไปด้วยในโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจว่าต้องการคนที่ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง หลังจากนั้นต้องพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือยุคนี้มีการหลอมรวมชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเข้าด้วยกัน (Work-Life Integration) เมื่อก่อนจะได้ยินคำว่าการสร้างสมดุลชีวิตกับการทำงาน แต่ในปัจจุบันชีวิตการทำงานจะเป็นแบบการหลอมรวมชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเข้าด้วยกัน" น.ส.พรรษชล กล่าว

นายอดิภัทร ชัยชนะสกุล รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนาองค์กร และฝ่ายทรัพยากรบุคคลและนวัตกรรม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า องค์กรมีการแตกธุรกิจไปหลายประเภท เพราะไม่สามารถพึ่งพาธุรกิจเพียงด้านเดียวได้ ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มทรูได้ขยายครอบคลุมไปหลายด้าน จึงต้องการบุคลากรที่มีทักษะหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน เมื่อก่อนอาจเน้นที่บุคลากรด้านไอทีและวิศวกรรม แต่ตอนนี้บริษัทต้องการทั้งคนที่รู้ลึกและรู้กว้าง ซึ่งคนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จะช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ผลักดันองค์กรและธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม

สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับ Work-Life Integration กลุ่มทรูได้เรียนรู้และปรับเอาแนวทางของสตาร์ทอัพมาใช้ มีการสร้างสตาร์ทอัพขึ้นภายในองค์กร คิดเป็นประมาณ 20% ของบุคลากร 2 หมื่นคน ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้คล้าย สตาร์ทอัพ พัฒนาคนให้มีทักษะหลากหลายเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งด้าน บุคลากรจะมีโอกาสทำงานอื่นนอกจากหน้าที่ประจำ เป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่เพื่อรองรับอนาคตการทำงานจะมีสองงานเหมือนเมเจอร์และไมเนอร์

นายอานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ หัวหน้าฝ่ายบุคคล บริษัท วงใน กล่าวว่า บุคลากรจะมีโอกาสทำงานอื่นนอกจากหน้าที่ประจำ เป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่ เมื่อก่อนคิดแค่เพียงต้องรู้ลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่สมัยนี้และต่อไปในอนาคตจะต้องรู้หลายๆ เรื่อง เปรียบได้เหมือนกับซี่ของหวีที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีการปรับเปลี่ยนทุก 3-5 ปี ว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติม ขณะที่บริษัทมีพนักงาน 220 คน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญ เช่น โปรแกรมเมอร์ การตลาด นักบัญชี ราว 20% และอีก 80% เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญทั่วไป