posttoday

อาร์เอสต่อยอดธุรกิจ ชูกลยุทธ์ใช้แพลตฟอร์มหลากสื่อปั้นสินค้าในเครือ เพิ่มพันธมิตร

06 มิถุนายน 2561

อาร์เอสโชว์โมเดลความสำเร็จ MPC หลังใช้ช่อง 8 ปั้นเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวีขายสินค้าสุขภาพและความงามเตรียมดึงวิทยุต่อยอด

อาร์เอสโชว์โมเดลความสำเร็จ MPC หลังใช้ช่อง 8 ปั้นเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวีขายสินค้าสุขภาพและความงามเตรียมดึงวิทยุต่อยอด

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ใช้โมเดลธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) นำแพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์ โดยนำช่อง 8 มาเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวี เพื่อจำหน่ายและทำตลาดกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามในเครือไลฟ์สตาร์ พบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถบริหารเวลาโฆษณาสัดส่วนระหว่างลูกค้าภายนอกที่ซื้อสื่อและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับความสำเร็จดังกล่าว ทำให้แผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการ เตรียมเปิดตัว LINE@ COOL Anything คอมมูนิตี้ใหม่ที่รวบรวมสินค้าคุณภาพผลิตได้มาตรฐานทั้งแบรนด์ของตัวเองและพาร์ตเนอร์มาให้ลูกค้าได้ช็อปปิ้ง

"บริษัทจะชูจุดเด่นความหลากหลายของสินค้าทั้งกลุ่มเฮลท์แอนบิวตี้ และกลุ่มสินค้าโฮมแอนไลฟ์สไตล์ เพื่อเอาใจกลุ่ม ผู้ฟังของคลื่นคูลฟาเรนไฮต์ที่อยู่ใน กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ซึ่งถือเป็น กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง" นายสุรชัย กล่าว

ขณะที่ข้อมูลศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ธุรกิจด้านสุขภาพความงามเป็น ดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมา 6 ปี มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ส่วนยูโรมอนิเตอร์บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก เปิดเผยว่า ตลาดอาหารเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 5.18 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อขานรับกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว บริษัทจึงมีแผนจะพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่เข้ามาทำตลาดอีก 15 รายการ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภค โดยสินค้าใหม่จะประกอบไปด้วย สินค้าแบรนด์ตัวเอง 7 รายการ คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และกลุ่มสินค้าออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ 4 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ 1 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 รายการ

นอกจากนี้ จะมีสินค้าแบรนด์พาร์ตเนอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 8 รายการ รวมถึงสินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือนและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย ซึ่งหลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ทั้งกลุ่มได้ตรงตามเป้าที่ 5,800 ล้านบาท