posttoday

สรท.มั่นใจส่งออกปี 61โต8%

05 มิถุนายน 2561

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ มั่นใจส่งออกปี 61 โต 8% ชี้กังวลสงครามการค้าอาจมีผลกระทบช่วงครึ่งปีหลัง

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ มั่นใจส่งออกปี 61 โต 8% ชี้กังวลสงครามการค้าอาจมีผลกระทบช่วงครึ่งปีหลัง

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ยังคงคาดการณ์มูลค่าการส่งออกไทยปี 2561 เติบโตได้ในระดับ 8% ภายใต้สมมุติฐานค่าเงินบาท 31.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ บวกลบไม่เกิน 0.5% โดยมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจคู่ค้าทั้งในตลาดหลัก ตลาดรอง และตลาดศักยภาพ เติบโตสอดคล้องกับการขยายตัวเศรษฐกิจโลก ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น หรือสูงสุดในรอบ 3 ปี ทำให้กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ผลิตน้ำมันดีขึ้น รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรกรรมมีแนวโน้มปรับขึ้นตาม

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตามอง คือ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน และคาดเดาได้ยากว่าจะมีมาตรการกีดกันทางการค้าออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ค่าเงินบาทที่ยังคงผันผวน โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเล็กน้อย จากแรงเทขายเพื่อเก็งกำไรค่าเงินในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวและผันผวนในกรอบ 31.90-32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางและมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ทำให้ราคาน้ำมันและราคาก๊าซหุงต้มปรับตัวขึ้น อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและต้นทุนการขนส่งสินค้าปรับสูงขึ้น มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศต่างๆ อาทิ กลุ่มสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันการนำเข้ารถยนต์จากเวียดนาม เป็นต้น

“แม้ว่าในปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 8% หรือใกล้เคียงตัวเลข 2 หลัก แต่ยังมีการมองกันว่าเป็นการเติบโตที่กระจุกตัวอยู่กับคนไม่กี่กลุ่ม ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้ามาดูแลสินค้าเกษตรให้มีราคาเพิ่มขึ้น เพื่อให้รายได้กระจายถึงมือเกษตรกร โดยเฉพาะการผลักดันสินค้าเกษตรแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่า และควรบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” น.ส.กัณญภัค กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่กระทบต่อการส่งออกไทยและเป็นปัญหาในขณะนี้ คือ ประกาศกรมศุลกากรฉบับที่ 134/2561 เรื่องการปฏิบัติพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ หมวด 6 การยื่นรายการนำของออก ในส่วนของการส่งข้อมูลบัญชีสินค้าทางเรือ ซึ่งระบุให้ตัวแทนเรือต้องส่งบัญชีสินค้าทางเรือ (Manifest) ผ่านระบบ National Single Window ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนวันเรือออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ทำให้เกิดภาระแก่ผู้ส่งออกทั้งในด้านต้นทุนการแก้ไขเอกสารเพิ่มขึ้นกว่า 416 ล้านบาท และต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลังให้พร้อมก่อนการส่งออกเป็นเวลานานมากขึ้น และทำให้ผู้ส่งออกสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศคู่แข่งที่ไม่มีมาตรการดังกล่าว ซึ่งสรท.จะหารือกับกรมศุลกากรขอให้ปรับแก้เวลาในการส่งเอกสารบัญชีสินค้าทางเรือล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 24 ชม. หลังวันเรือออก เพื่อลดผลกระทบ