posttoday

รฟท.ขอขึ้นค่าโดยสาร ขนส่งสินค้าเสนอปรับ5%ขู่ไม่ให้หยุดวิ่ง

25 พฤษภาคม 2561

รถไฟ-รถขนส่งสินค้าดาหน้าขอปรับราคาตามต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พณ.ยันสินค้าไม่แพง

รถไฟ-รถขนส่งสินค้าดาหน้าขอปรับราคาตามต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พณ.ยันสินค้าไม่แพง

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ รฟท.จะเสนอโครงสร้างค่ารถไฟให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณา โดยจะขอความเห็นชอบในการปรับโครงสร้างราคาให้สอดคล้องราคา ค่าเชื้อเพลิงที่สูงขี้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา รฟท.ไม่เคยปรับราคาค่าโดยสารได้เลย เนื่องจากต้องให้รัฐบาลอนุมัติก่อน ส่งผลให้ต้องแบกต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจำนวนมาก

สำหรับการปรับราคาโครงสร้างราคาค่าโดยสารใหม่ จะเสนอปรับราคาเพียงรถไฟชั้น 3 จากเดิมอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 2 บาท ปรับเพิ่มเป็น 10 บาทในราคาเริ่มต้น และค่าโดยสารตามระยะทางจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 เช่น โครงสร้างค่าโดยสารใหม่ชั้น 3 ระยะทาง 0-100 กิโลเมตร (กม.) จะอยู่ที่ 0.323 บาท/กม. จากเดิมอยู่ที่ 0.215 บาท/กม. ซึ่งแผนดังกล่าวคาดว่าจะทำให้รายได้ของ รฟท.เพิ่มขึ้นอีก 30% ส่วนการปรับค่าบริการ รถไฟชั้น 1 และชั้น 2 นั้น รฟท.จะไม่ปรับขึ้นเนื่องจากราคาค่าโดยสารทั้งสองชั้นมีราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องอยู่แล้ว เช่น ค่าธรรมเนียมต่างๆ เหลือแต่ชั้น 3 ที่ไม่เคยมีการปรับค่าโดยสารเลยมา 20 ปีแล้ว

นายพีระพล บุญชิณวงศ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึง รมว.คมนาคม ขอปรับค่าขนส่งสินค้าขึ้น 5% และจะรอคำตอบจนถึงวันที่ 10 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะใช้มาตรการโดยหยุดวิ่งรถ ในส่วนของสมาคมภาคอีสานกว่า 3 หมื่นคัน หยุดวิ่งครึ่งหนึ่ง 1.5 หมื่นคันก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเด็ดขาด แต่อาจจะใช้วิธีนำรถมาจอดข้างถนน

"ภาคขนส่งไม่มีการปรับค่าขนส่งมานาน 10 ปีแล้ว เทศกาลหยุดยาวปีใหม่ สงกรานต์ก็ให้ความร่วมมือหยุดวิ่งรถ มาโดยตลอด แต่ละเทศกาลหยุดที 7-8 วัน ขอแค่นี้น่าจะให้เราได้ ขึ้นค่าขนส่ง 5% ถ้าวิ่งรถเที่ยวละ 3 หมื่นบาท ไปกลับ เราขึ้นเที่ยวละ 1,500 บาทเท่านั้นเอง รวมแล้ว 3.15 หมื่นบาท ความเป็นจริงต้องปรับ 10% ถึงจะอยู่รอด แต่ไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไปซ้ำเติมประชาชน ถ้าขอเรียกร้องตรงนี้ ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องมีมาตรการกดดัน ตามมา" นายพีระพล กล่าว

ทางด้าน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังจับตาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน เช่น ปุ๋ยเคมี น้ำมันหล่อลื่น เคมีภัณฑ์ อาจจะมีราคาสูงขึ้นแต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดมาขอปรับราคา

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ (พณ.) ระบุว่า หลังจากหารือกับ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (ซัพพลายเออร์) เพื่อติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล และค่าขนส่งสินค้า 5% ว่า ยังไม่มีรายใดปรับขึ้นราคาขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าข้าวถุง หรือสินค้าอื่น หากแบกรับภาระไม่ไหวก็ให้ทำเรื่องมาที่กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม และยืนยันว่าที่ว่าราคาสินค้าแพงทั้งแผ่นดินนั้นไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ  ตรวจสอบราคาแก๊สหุงต้มทุกพื้นที่ ที่อาจปรับสูงขึ้นเกินกว่าถังละ 395 บาท ราคาจะต้องสอดคล้องกับราคาอ้างอิงของกระทรวงพลังงาน หากพบทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมาย