ไลน์ทูเดย์สร้างคอนเทนต์ เพิ่มผู้ใช้ดันเม็ดเงินโฆษณา

โดย...ภูวดล โกมลรัตนเสถียร

หลังจากที่ไลน์ ทูเดย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมคอนเทนต์ แก้ปัญหาของ ผู้อ่านที่ไม่สามารถเลือกเสพสื่อ หรืออ่านคอนเทนต์จากตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาดได้ทั้งหมด และฝั่งสำนักพิมพ์ หรือผู้ผลิตคอนเทนต์ ประสบปัญหาเรื่องการแข่งขันรุนแรงจากจำนวนช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจำนวน ผู้ใช้บริการเติบโตต่อเนื่อง มียอดผู้อ่านสูงกว่า 1,000 ล้านครั้ง/เดือน และฐานผู้ใช้ที่สูงถึง 32 ล้านคน

กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันจะเลือกการรับชมและเข้าถึงคอนเทนต์ เช่นเดียวกับเวลาที่ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้งานโซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้ไลน์ ทูเดย์ ต้องการขยายการสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นฮับของผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้บริโภค

ขณะที่แผนดำเนินธุรกิจบริษัทจะร่วมกับพันธมิตรข่าวและคอนเทนต์ ต่างๆ กว่า 120 ราย ในการผลิตคอนเทนต์ และนำเสนอข่าวคุณภาพ เพื่อแก้ปัญหาการนำเสนอข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่ม ผู้บริโภคในทุกเพศทุกวัยผ่านรูปแบบของวิดีโอและรูปภาพ

ทั้งนี้ คอนเทนต์หลักในไลน์ ทูเดย์ ส่วนใหญ่ 95% ที่มีการนำเสนอคอนเทนต์ 600-700 ข่าว/วัน จะมาจากพันธมิตรเป็นหลัก โดยจากนี้บริษัทจะมีทีมงานร่วมผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์เพิ่มเติม ซึ่งในปีนี้จะมี 6 รายการใหม่ ได้แก่ เฮดไลน์ ทูเดย์, ทอมก้องร้องทุกข์, ข่าวเด็ดเด็กตอบ, อาม่า แอนด์ เดอะแก๊ง, เลือกได้เลือกดี และ พ.พาทินี

ขณะเดียวกัน เป้าหมายของบริษัทจะนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของยอดผู้ใช้งานให้มีจำนวนมากกว่า 40 ล้านคน หรือเทียบเท่ายอดผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นไลน์เพิ่มจำนวนการอ่านคอนเทนต์จากปัจจุบันที่ 38 คอนเทนต์/คน/เดือน โดยจะมีการประชาสัมพันธ์และโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เมื่อมีผู้เข้าชมมากขึ้นก็จะสามารถสร้างรายได้จากการโฆษณามากขึ้น

"เมื่อมีผู้เข้าชมมากขึ้นจะทำให้เห็นโฆษณา ซึ่งบริษัทจะแบ่งรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาให้กับพันธมิตร พร้อมร่วมสร้างช่องทางในการเข้าถึง โดยแต่ละคอนเทนต์จะสามารถคลิกเข้าสู่ต้นทางในการเข้าถึงเว็บไซต์ของพันธมิตรได้ โดยภาพรวมการเข้าชมเว็บไซต์ต้นฉบับสูงถึง 10%" กวิน กล่าว

สำหรับรายการคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในการเข้าชม ได้แก่ ข่าวทั่วไป-การเมือง ข่าวบันเทิง ดูดวง ข่าวกีฬา และไลฟ์สไตล์จาก ปัจจุบันที่มีหมวดหมู่มากกว่า 11 หมวดหมู่ และจะขยายหมวดหมู่ในการเข้าถึงเพิ่มขึ้น

กวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มีสัดส่วน 10% ของตลาดรวม โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 30% สวนทางกับเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 20% ซึ่งบริษัทจะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญที่จะช่วยให้สื่อออนไลน์เติบโตจากเม็ดเงินโฆษณาผ่านข้อมูลคอนเทนต์ที่อัพเดท เข้าถึงง่าย มีความหลากหลาย