posttoday

รัฐเร่งปฏิรูปรถเมล์ห้ามขึ้นค่าโดยสาร

18 พฤษภาคม 2561

กรมฯขนส่งฯ เร่งเจรจาเอกชนเคาะปฏิรูปรถเมล์ ย้ำไม่ปรับ ค่าโดยสาร รถร่วมฯ ขู่ทิ้งไพ่เลิกเดินรถเส้นทางใหม่

กรมฯขนส่งฯ เร่งเจรจาเอกชนเคาะปฏิรูปรถเมล์ ย้ำไม่ปรับ ค่าโดยสาร รถร่วมฯ ขู่ทิ้งไพ่เลิกเดินรถเส้นทางใหม่

นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า การปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารใหม่ 269 เส้นทางนั้น อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามายื่นข้อเสนอเส้นทางเดินรถในอนาคต ซึ่งมีการยื่นข้อเสนอแข่งขันด้านราคารถเมล์ปรับอากาศตั้งแต่ 10-20 บาทตลอดสาย

นอกจากนี้ เอกชนรายใหญ่เสนอจะขอซื้อสัมปทานเส้นทางเดินรถเดิมของผู้ให้บริการรถร่วมบริการ พร้อมยอมรับภาระหนี้ 100% เพื่อควบรวมเส้นทางเดินรถมาอยู่ภายใต้การบริหาร ซึ่ง ขบ.มองว่าในอนาคตหลังปฏิรูปเส้นทางเดินรถแล้วเสร็จ จะมีผู้ประกอบการเดินรถที่เป็นเอกชน 2-3 ราย และผู้ประกอบการเดินรถจากภาครัฐ อย่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เท่านั้น

สำหรับประเด็นเรื่องการผูกขาดตลาดเมื่อมีเอกชนให้บริการไม่กี่รายนั้น ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะ ขบ.มีแนวทางและกฎระเบียบกำกับดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและไม่กระทบประชาชน

นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (สมาคมรถร่วมฯ) กล่าวว่า ปัจจุบันรถเอกชนร่วมบริการ หรือรถร่วมฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมากจนบางรายประสบปัญหาขาดทุน สะสมต่อเนื่องแทบจะดำเนินธุรกิจต่อไม่ไหว อีกทั้งยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนจากทางรัฐบาลและ ขบ.ในเรื่องแนวทางปรับขึ้นค่าโดยสารหลังปฏิรูปเส้นทางเดินรถ โดยชี้แจงว่าหลังปฏิรูปแล้วเสร็จในช่วงต้น ยังไม่ปรับเพิ่มค่าโดยสาร โดยให้ผู้ประกอบการรับต้นทุนไปก่อน เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเอกชนจำเป็นต้องกู้เงินมาลงทุนปรับปรุงรถเมล์เดิมให้ได้ตามมาตรฐานใหม่ของ ขบ. ในขณะที่ยังมีภาระหนี้เก่าสะสม ดังนั้นสถาบันการเงินหรือแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่จึงปฏิเสธการปล่อยเงินกู้ เพราะไม่สามารถชี้แจงแผนการดำเนินธุรกิจที่จะมีกำไรได้ในอนาคตหากรัฐบาลยังไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังไม่สรุปการปฏิรูปรถเมล์ ผู้ประกอบการรถร่วมฯ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเสนอให้รัฐบาลซื้อสัมปทานเดินรถกลับคืนไป โดยจ่ายเงินคืนให้เจ้าของเส้นทางหรือช่วยเหลือเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการที่ไปต่อไม่ไหวคืนใบสัมปทานเส้นทางเดินรถ

ทั้งนี้ สมาคมรถร่วมฯ ยืนยันว่า เจ้าของเส้นทางเดิมจะไม่เข้าร่วมประมูลเส้นทางเดินรถใหม่ โดยขอให้ ขบ.มอบสัมปทานเดินรถเส้นทางใหม่ให้เลย 7 ปี โดยไม่ต้องแข่งขัน เนื่องจากผู้ประกอบการรายเดิมได้ลงทุนไปมากแล้วในเส้นทางเดิม ถ้าหากต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินรถไปเป็นสายอื่นคงไม่มีกำลังเงินพอไปลงทุนก่อสร้าง อู่เดินรถแห่งใหม่