posttoday

พาณิชย์เดินหน้าพัฒนาผู้ผลิตปลาร้าไทยขยายโอกาสการตลาด

20 เมษายน 2561

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าต่อยอดให้กับ "ปลาร้า" ไทย หลังกระทรวงเกษตรฯ กำหนดมาตรฐาน เล็งช่วยพัฒนาผู้ผลิตพื้นบ้านสู่ผู้ประกอบการ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าต่อยอดให้กับ "ปลาร้า" ไทย หลังกระทรวงเกษตรฯ กำหนดมาตรฐาน เล็งช่วยพัฒนาผู้ผลิตพื้นบ้านสู่ผู้ประกอบการ

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนในการส่งเสริม “ปลาร้า” ไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐาน และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับปลาร้า หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดมาตรฐานสินค้าปลาร้าออกมาแล้ว โดยมีแผนที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการที่ผลิตปลาร้าทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยสวยงามดึงดูดใจแก่ผู้พบเห็น และขยายผลิตภัณฑ์ปลาร้าให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตามความต้องการ

“กรมฯ จะเข้าไปช่วยพัฒนาผู้ผลิตพื้นบ้าน ผู้ประกอบการชุมชน ที่ผลิตปลาร้า ให้มีการพัฒนาเป็นผู้ประกอบการ โดยจะเข้าไปช่วยสอนวิธีการทำธุรกิจ การสร้างเรื่องราวให้กับปลาร้า เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการซึมซับและทราบถึงความเป็นไปเป็นมาของปลาร้าก่อนที่จะบริโภค และจะช่วยแนะนำช่องทางการตลาด เพื่อให้ปลาร้าจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น”นางกุลณีกล่าว

สำหรับช่องทางการจำหน่ายปลาร้า ที่กรมฯ จะช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น เบื้องต้นได้มีการประสานนำปลาร้าที่ได้มาตรฐานของผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการสินค้า OTOP เข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ปัจจุบันกำลังจะมีถึง 4 หมื่นแห่ง และร้านเครือข่ายของธุรกิจ MOC Biz Club ของกระทรวงพาณิชย์ และนำเข้าไปจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์ ของดีทั่วไทย หรือ www.kongdeetourthai.com สำหรับจำหน่ายในประเทศ และ www.thaitrade.com สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select ทั้งที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และที่กรมฯ กำลังส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยในประเทศได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว จะต้องใช้ปลาร้าที่ได้มาตรฐานเป็นส่วนผสมในการประกอบการไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายปลาร้าได้อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ปลาร้าที่ได้มาตรฐานและผ่านการคัดเลือกจนได้เป็น OTOP Select เพื่อนำไปจำหน่ายในสนามบินนานาชาติ เช่น ที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง เพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะในแต่ละปี ไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก และสินค้า OTOP ของไทย ก็ได้รับการยอมรับและนักท่องเที่ยว ก็มีการซื้อไปใช้ ไปเป็นของฝากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง