posttoday

'บาจา'รีเฟรชแบรนด์ ปรับโครงสร้างองค์กร ชูจุดสินค้าแฟชั่นคู่คุณภาพรุกสื่อสารยี่ห้อ

12 เมษายน 2561

บาจาปรับแบรนด์ให้ทันสมัย ล้างภาพเก่าด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรและวิธีสื่อสาร พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ปี 2561 ตั้งเป้าโต 2 หลัก

บาจาปรับแบรนด์ให้ทันสมัย ล้างภาพเก่าด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรและวิธีสื่อสาร พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ปี 2561 ตั้งเป้าโต 2 หลัก

นายเปาโล แกรสซี ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท บาจา (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าจากยุโรป เปิดเผยว่า ปี 2561 บริษัทมีแผนปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยมาก ยิ่งขึ้น (รีเฟรชแบรนด์) ด้วยการนำนโยบายบริษัทแม่มาปรับใช้ในประเทศไทยด้วยวิธีการที่หลากหลาย อาทิ การแต่งตั้งผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่พร้อมทีมงาน ปรับรูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์และ คอลเลกชั่นใหม่ การสื่อสารไปยังกลุ่ม ผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นต้น

"ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเองก็มีฐานลูกค้าเก่าอยู่ไม่น้อย จึงยังคงสินค้ารูปแบบดั้งเดิมไว้ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเก่า ขณะเดียวกัน ก็จะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยการปรับกลยุทธ์การทำตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์" นายแกรสซี กล่าว

ทั้งนี้ ตลาดในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญและมีศักยภาพจากกลุ่ม ผู้บริโภคชนชั้นกลางซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทมองเห็นและกำหนดแผน โดยปี 2560 ตลาดรองเท้าในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมองว่าในอีก 3 ปีจากนี้ ตลาดจะเติบโตเฉลี่ย 3.4% ตามสภาพเศรษฐกิจที่มี แนวโน้มเติบโตขึ้น โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3.5%

สำหรับการแข่งขันของตลาดปัจจุบันมีการแข่งข้นด้านราคาที่รุนแรง ซึ่งบริษัทหลีกเลี่ยงที่จะเข้าสู่สงครามราคา แต่ มุ่งเน้นการให้ความรู้และข้อมูลต่อตลาดเพื่อให้ทราบถึงความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับราคาที่เหมาะสม ถือเป็น จุดหลักที่นำมาเน้นย้ำต่อผู้บริโภคให้เข้าใจถึงความผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาสินค้า ให้ตอบโจทย์อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้น 2 หลัก จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 15 แห่งทั่วประเทศจากปัจจุบัน มีจำนวน 25 แห่ง พร้อมมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสาขาใหม่ทั้งหมดในอนาคต โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงสาขาแฟล็กชิปสโตร์ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยใช้เงินลงทุนหลักล้านบาท เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาสาขาอื่นๆ ต่อไป โดยมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิตี้ สโตร์ ซึ่งเน้นความทันสมัยโดดเด่นเจาะกลุ่ม ผู้บริโภคคนเมืองและแฟมิลี่ สโตร์ เจาะกลุ่มผู้บริโภคครอบครัวที่เน้นความคุ้มค่าและการสื่อสารที่เข้าใจง่าย

อย่างไรก็ตาม มีการพัฒนาบุคลากร ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการแนะนำการให้บริการเพื่อให้ผู้บริโภคพึงพอใจมากกว่าการขายด้วยการให้คำแนะนำและการเลือกซื้อของผู้บริโภคอย่างตรงจุดเพื่อสร้างประสบการณ์ซื้อขายสินค้า ให้รองเท้าเป็นมากกว่าสินค้าจำเป็นโดยจะต้องเป็นสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพ โดยปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์บาจา คือ การเข้ามาเท้าเมื่อรองเท้าชำรุดและต้องการมองหา คู่ใหม่ที่มีคุณภาพเท่านั้น

ขณะที่แผนการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับสินค้าแบรนด์อื่นๆ ที่จะนำมาจำหน่ายในสาขา ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่สินค้าแบรนด์บาจา 90% และสินค้าแบรนด์อื่น 10% โดยในอนาคตมีแผนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือมากกว่า 20% เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในสาขาให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในการเลือกซื้อ