posttoday

เร่งดันส่งออกไข่ไก่เพิ่ม

07 เมษายน 2561

กรมปศุสัตว์เผยผลหารือแก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด ได้ 3 ข้อยุติ คาดส่งผลผลิตไม่เกิน 40 ล้านฟอง ดึงราคาเป็นธรรมทุกฝ่าย

กรมปศุสัตว์เผยผลหารือแก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด ได้ 3 ข้อยุติ คาดส่งผลผลิตไม่เกิน 40 ล้านฟอง ดึงราคาเป็นธรรมทุกฝ่าย

นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ให้ นสพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะมิสเตอร์ไก่ไข่ของกระทรวง เชิญ 16 บริษัทเอกชน ผู้ผลิตไก่ไข่รายใหญ่ มาเจรจาเพื่อขอความร่วมมือในการลดปริมาณนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) และพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) เพื่อลดปริมาณผลผลิตแม่ไก่ยืนกรง ส่งผลให้ผลผลิตไข่ไก่ในแต่ละวันจะไม่เกิน 40 ล้านฟอง สร้างสมดุลราคาไข่ไก่ในประเทศทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

นสพ.สมชวน กล่าวว่า 16 บริษัทได้หารือและได้ข้อยุติ 3 ข้อ เพื่อช่วยกันสร้างสมดุลของราคาไข่ไก่ในประเทศไม่ให้ตกต่ำ ประการแรก บริษัททั้ง 16 รายจะลดการนำเข้าไก่จีพีเหลือ 4,500 ตัว จากโควตาปี 2561 ที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้อนุมัติไว้ 5,500 ตัว ในขณะที่ปริมาณ นำเข้าไก่พีเอสจะนำเข้าตามโควตา 5.5 แสนตัน และ 2.ผลักดันการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศเป็นจำนวน 50 ตู้คอนเทนเนอร์/เดือน หรือ 16 ล้านฟอง/เดือน ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.มิ.ย. 2561) โดยจะตรวจสอบและประเมินผลทุกเดือน ทั้งนี้คาดว่าราคาไข่น่าจะปรับสูงขึ้นช่วงกลางเดือน เม.ย. 2561 นี้ และ 3.กรณีหากมีการขยายฟาร์มไก่ไข่แห่งใหม่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 3 แสนตัวขึ้นไป จะต้องมีแผนการตลาดและแผนธุรกิจที่ชัดเจนรองรับให้เอ้กบอร์ดพิจารณา

"จากความร่วมมือดังกล่าว คาดว่า จะทำให้ปริมาณไข่ที่ออกมาจะสมดุลกับความต้องการบริโภควันละ 40 ล้านฟอง ช่วยดึงราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ขยับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ทั้งผู้ผลิตรายย่อยและรายใหญ่เห็นตรงกันว่าถ้าไม่ช่วยกันก็อยู่ลำบากเดี๋ยวจะล้มกันหมด หากยังมีการนำเข้าปู่ย่าพันธุ๋และแม่พันธุ์เข้ามามากเกินไป ซึ่งในการส่งออกอาจจะกำไรน้อยหรือขาดทุนนิดหน่อย แต่เมื่อราคาในประเทศปรับเพิ่มขึ้น ก็จะมาชดเชยรายได้ที่หายไป และก็จะช่วยให้เกษตรกรในประเทศขายได้ในราคาที่ดีขึ้น แต่จะไม่แพงไปจนกระทั่งกระทบกับประชาชน เพราะเป็นโปรตีนที่ดีและราคาถูก  เรื่องไข่ไก่เป็นสินค้าที่อ่อนไหวถูกไปก็กระทบคนเลี้ยง แพงก็กระทบคนกิน" นสพ.สมชวน กล่าว

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จะมีการจัดชุดเฉพาะกิจให้เข้าไปตรวจสอบปริมาณพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่และการนำเข้า การปลดไก่ยืนกรงให้เป็นไปตามมติของเอ้กบอร์ด ซึ่งจะดำเนินการจริงจังเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่ายว่าข้อตกลงระหว่างผู้เลี้ยงรายใหญ่และรายย่อยที่มีเอ้กบอร์ดเป็นตัวกลางจะมีการปฏิบัติจริง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยทั่วประเทศ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำต่อเนื่องเพราะปริมาณไข่ไก่ล้นตลาด โดยให้เร่งตรวจสอบลดจำนวนการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ไก่ ปลดแม่ไก่ยืนกรงของบริษัทรายใหญ่และลดการนำเข้าจาก 6 แสนตัว/ปี ให้เหลือ 3-4 แสนตัว/ปี ซึ่งที่ผ่านมาเอ้ก บอร์ดได้เคยมีมติระยะสั้นกำหนดให้บริษัทและฟาร์มรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงอายุไม่เกิน 72 สัปดาห์ ไปแล้วจำนวน 8.1 แสนตัว เพื่อลดปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลง สำหรับไก่จีพีแต่ละตัวจะให้ลูกที่เป็นไก่พีเอสประมาณ 60 ตัว/ปี และไก่พีเอสจะให้ลูกประมาณ 90-100  ตัว/ปี ก่อนหน้าปี 2559 มีการขอนำเข้าไก่ PS จำนวน 6.2 แสนตัว ปี 2560 จำนวน  6.1 แสนตัว และปี 2561 จำนวน 5.5 แสนตัว