posttoday

แอร์เอเชีย3เดือนหมื่นล. คาดทั้งปีอัตราบรรทุกกว่า87%

03 เมษายน 2561

ไทยแอร์เอเชีย ลุ้นไตรมาสแรกทะลุหมื่นล้าน หนุนอาเซียนซิงเกิ้ลวีซ่าดูดนักท่องเที่ยวยุโรป บวท.ดันตั้งฮับชิงจีน-อินเดีย จ่อติดท็อปทรีโลก

ไทยแอร์เอเชีย ลุ้นไตรมาสแรกทะลุหมื่นล้าน หนุนอาเซียนซิงเกิ้ลวีซ่าดูดนักท่องเที่ยวยุโรป บวท.ดันตั้งฮับชิงจีน-อินเดีย จ่อติดท็อปทรีโลก

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ธุรกิจการบินปี 2561 จะเป็นอีกปีที่สายการบินต้นทุนต่ำยังแข่งดุเดือด โดยปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีสัดส่วนตลาด 30% ดังนั้นปีนี้จะเน้นจุดแข็งด้านบริการที่หลากหลาย และตอบสนองดีมานด์เดินทางอย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารตลอดปี 23.2 ล้านคน ส่วนไตรมาสแรกคาดโตจากปี 2560 เพราะนักท่องเที่ยวเพิ่มจนถึงตรุษจีน ล่าสุดจีนมีสัดส่วน 30% ของผู้โดยสารทั้งหมดคิดเป็น 20% รายได้ไทยแอร์เอเชีย

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2560 ของสายการบินไทยแอร์เอเชียมีตัวเลขกำไรสุทธิ 570 ล้านบาท รายได้รวม 9,150 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนขนส่งผู้โดยสารที่ 89%

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นจึงมองว่าภาพรวมทั้งปีนี้จะมีอัตราบรรทุกต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) กว่า 87% ขณะที่ไตรมาส 2 ผลประกอบการจะน้อยกว่าไตรมาสแรก เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูท่องเที่ยว โดยช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับสิทธิทางการบินจากประเทศอินเดียเพิ่มขึ้น 1,000 ที่นั่ง จึงมีแผนเปิดเส้นทางการบินใหม่ในอินเดียในปีนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเมืองที่จะเปิดเส้นทางบิน ควบคู่ไปกับเพิ่มเที่ยวบินในเมืองเดิมทั้ง 5 แห่ง รวมทั้งปีนี้จะเปิดตัวระบบสะสมแต้มแบบใหม่คล้าย E-Wallet ในชื่อ AirAsia Big Loyalty Card

นอกจากนี้ จากการบินภูมิภาคอาเซียนโตขึ้นอย่างมาก จากการขยายตัวนักท่องเที่ยวและค่าครองชีพที่ต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น จึงมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีของชาติอาเซียนและผู้ประกอบการสายการบินเพื่อวางแนวทางการใช้ระบบวีซ่าใบเดียว (Single Visa) เพื่อสนับสนุนนโยบายการเปิดน่านฟ้าอาเซียน เพื่อสนับสนุนตลาดการท่องเที่ยวของอาเซียน คล้ายกับการใช้วีซ่าเชงเก้น (Schengen) เป็นวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศในโซนยุโรปสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามแดนได้เลย คาดท่องเที่ยวจะโตได้อีก 300-400% จากปัจจุบัน

ด้าน นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมากในการเป็นฮับการบินของภูมิภาค ดังนั้นจึงต้องเร่งลงทุนพัฒนาสนามบินและระบบบริหารห้วงอากาศเพื่อรับเที่ยวบิน 3 ล้านเที่ยวบิน/ปี ในอีก 20 ปีข้างหน้าถือเป็นอันดับ 10 ของโลก

สำหรับ บวท.มองว่า เป็นโอกาสของผู้ประกอบการสายการบินและธุรกิจด้านท่องเที่ยวที่จะใช้ความเป็นศูนย์กลางต่อยอดเจาะตลาดศักยภาพอย่างประเทศจีนและประเทศอินเดีย ซึ่งถูกยกให้เป็นประเทศที่มีมูลค่าของตลาดการบินเป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลกในอนาคต

"มองว่าประเทศไทยและสิงคโปร์ควรจับมือกันเพื่อร่วมเป็นผู้นำในการช่วยเหลือและพัฒนาสนามบินประเทศในอาเซียนโดยเฉพาะเรื่องการจัดจราจรเที่ยวบิน (Air Traffic Flow) เป็นแรงสนับสนุนการเติบโตตลาดการบินอาเซียนในระยะยาว" นางสาริณี กล่าว