อุตฯความงามไทยพุ่ง ลอรีอัลชี้โตสุดอาเซียนผุด4เว็บแบรนด์ดอทคอมรับโมเดลอี-บูทีค

ลอรีอัลชี้อุตสาหกรรมความงาม 1.68 แสนล้าน โต 8% สูงสุดอาเซียน สยายปีกอี-คอมเมิร์ซรับบริษัทแม่ปั้นโมเดลอี-บูทีค ลุยเปิด 4 เว็บ

นางนาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศ ไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมความงามมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท ในปีนี้เติบโต 7-8% ถือว่าไทยเป็นตลาดใหญ่และเติบโตอันดับต้นๆ ในอาเซียน เพราะพฤติกรรมของคนไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการดูดีและยอมจ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม ประชากรก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ผลักดันให้ตลาดเติบโต

ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึง มีแผนขยายช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ภายใต้โมเดลธุรกิจอี-บูทีค โดยบริษัทเปิดตัวเว็บไซต์แบรนด์ดอทคอมขึ้นมาเองในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา โดยเปิดตัวด้วยกัน 4 แบรนด์ ได้แก่ ลังโคม ไบโอเธิร์ม วายเอสแอล บิวตี้ ล่าสุดไตรมาสแรกของปีนี้ เออเบิน ดีเคย์ ส่วนก่อนหน้านี้มีเว็บไซต์ของคีธไปแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบันทั้งหมด 5 เว็บไซต์

นอกจากการสร้างเว็บไซต์ของ แบรนด์เองแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการนำสินค้าไปจำหน่ายช่องทางออนไลน์ค้าปลีกและมาร์เก็ตเพลส สำหรับทิศทางตลาดอี-คอมเมิร์ซ นับว่าเป็นช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก รวมทั้งในไทยเองก็ตาม และลอรีอัลมีความมุ่งมั่นที่จะใช้ช่องทางดังกล่าวอย่างเต็มที่ในการ ขยายธุรกิจ สำหรับตัวเลขรายได้ช่องทางอี-คอมเมิร์ซของลอรีอัลทั่วโลก เมื่อปี ที่ผ่านมามีสัดส่วน 8% ของรายได้รวม โดยเติบโต 33.6% ส่วนในไทยเติบโต 97%

ขณะที่ในช่องทางออฟไลน์ บริษัท มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า โดยนำเทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) หรือความจริงเสริมโลกความ เป็นจริง ซึ่งเมื่อกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ลอรีอัลได้เข้าไปเทกโอเวอร์บริษัท โมดิเฟซ จากประเทศแคนาดา เมื่อกลางเดือน มี.ค. เพื่อนำเทคโนโลยีเออาร์มาใช้ในแฟล็ก ชิปสโตร์ สำหรับในไทยได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ที่แบรนด์เมกอัพอย่าง นิกซ์ เพื่อสร้างประสบการณ์และทำให้เกิดการแชร์ในโลกโซเชียล

"ยุทธศาสตร์ในปีนี้ ลอรีอัลให้ความสำคัญ 4 ด้าน 1.การทำตลาดนำผู้บริโภคมาเป็นศูนย์กลาง 2.มุ่งสร้างประสบการณ์ดิจิทัล 3.ให้ความสำคัญกับบุคลากรใน องค์กร และ 4.ทำกิจกรรมเพื่อสังคม รวมทั้งบริษัทจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ ได้แก่ จิออร์จิโอ อาร์มานี บิวตี้ และเซราวี กลุ่มสกินแคร์ลงในตลาดเวชสำอางระดับแมส ในราคาที่จับต้องได้ทำให้บริษัทมีแบรนด์ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ส่วนการเปิดตัวสินค้าใหม่ในพอร์ตโฟลิโอใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา" นางเคอโรวดี กล่าว

นางเคอโรวดี กล่าวว่า รายได้ของลอรีอัลในประเทศไทยปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่าตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม 2 เท่าตัว โดยในไทยลอรีอัลยังคงเป็นอันดับสอง และวางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำตลาดในอนาคต จากปัจจุบันในไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ฯ เป็นผู้นำตลาด ส่วนในตลาดโลก ลอรีอัลเป็นผู้นำตลาดสร้างรายได้ 2.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูนิลีเวอร์ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และพีแอนด์จี 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์