posttoday

ไลน์หนุนสตาร์ทอัพไทย ผุดโครงการไลน์สเกลอัพพร้อมทุ่มงบ300ล้านบุกตลาดต่างชาติ

22 มีนาคม 2561

ไลน์ยกระดับสตาร์ทอัพไทยขยายบริการออกสู่ตลาดสากล ท่ามกลางสถานการณ์ท้าทายแอพล้นตลาด

ไลน์ยกระดับสตาร์ทอัพไทยขยายบริการออกสู่ตลาดสากล ท่ามกลางสถานการณ์ท้าทายแอพล้นตลาด

นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการ ผู้จัดการ ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ไลน์ได้เปิดตัวโครงการ ไลน์สเกลอัพ (LINE SCALEUP) เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้สามารถขยายบริการหรือมีผลงาน ออกสู่ตลาดระดับประเทศหรือสากล ซึ่งสตาร์ทอัพไทยในปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมากและยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นมีผลงานสู่ตลาด

ทั้งนี้ พบว่าปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่อยู่ในกูเกิลเพลย์ จำนวน 2.8 ล้านแอพ และในแอพสโตร์ จำนวน 2.2 ล้านแอพ โดยเฉลี่ยมีเพียง 32 แอพ ที่ถูกดาวน์โหลดต่ออุปกรณ์ 1 เครื่องและมีเพียง 3-5 แอพที่ถูกใช้งานอยู่เป็นประจำในทุกวัน ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์แอพล้นตลาดในขณะที่สตาร์ทอัพหรือนักพัฒนาจะต้องเผชิญกับความท้าทายความยากลำบากที่จะทำให้แอพของตนเป็นที่รู้จักและติดอันดับในตลาด

ขณะที่ไลน์มีความต้องการพาร์ตเนอร์มาสร้างการบริการใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้คนไทย ทั้งนี้ มุ่งหวังให้ไลน์สเกลอัพเป็นช่องทางที่จะทำให้สตาร์ทอัพสามารถขยายและพัฒนาบริการของตนเองจนสามารถนำบริการมาเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของไลน์ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 42 ล้านคน จากผู้ใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตที่มีประมาณ 45 ล้านคน และอัตราการใช้งานแพลตฟอร์มของไลน์เกิน 63 นาที/วัน

ด้าน นายพีรพล สง่าเมือง หัวหน้าฝ่ายบริการใหม่ไลน์ประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์จะเปิดกว้างให้สตาร์ทอัพทุกโปรดักต์เสนอผลงานเข้ามาจนถึงสิ้นปีนี้ โดยจะเน้นโปรดักต์หรือบริการที่มีอยู่แล้วในตลาดแต่ฐานลูกค้ามีไม่มากระดับร้อยหรือพันซึ่งไลน์พร้อมจะต่อยอดเพื่อขยายฐานตลาดให้ใหญ่ขึ้นเป็นหมื่นราย

สำหรับสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไลน์สเกลอัพ จะได้รับสิทธิการใช้เทคโนโลยี LINE Messaging API (เชื่อมกับบัญชี LINE@) ฟรี พร้อมอัพเกรดบัญชีเป็นออฟฟิเชียลแอ็กเคาต์ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านบาท

รวมทั้งให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นจะพิจารณาทั้งจากศักยภาพและผลการดำเนินธุรกิจของทีมนั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสได้เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาบริการต่างๆ ของไลน์ โดยไลน์มีเงินทุนสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพกว่า 300 ล้านบาท (10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และหากธุรกิจมีความน่าสนใจไลน์จะซื้อกิจการสตาร์ทอัพอีกด้วย ทั้งนี้ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 10  ราย