แม็คกรุ๊ปฮึดกู้รายได้ลด กางแผนบุกหนักทั้งใน-ต่างประเทศ

แม็คกรุ๊ปเผยผิดหวังรายได้ปี 2560 หลังติดลบ 4% ส่วนปีนี้มั่นใจกลับมาโต 10% หลังรุกขยายธุรกิจอย่างหนัก

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บริษัท แม็คกรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทค่อนข้างผิดหวังกับรายได้ที่เกิดขึ้น เนื่องจากภาพรวมผลประกอบการมีการขยายตัวติดลบอยู่ที่ประมาณ 4% หรือมีรายได้รวมประมาณ 4,314 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากปี 2559 ที่มีรายได้รวมประมาณ 4,479 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เติบโตไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันธุรกิจค้าปลีกก็มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกาย ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้ากันอย่างรุนแรง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าการแข่งขันในด้านของการลดราคาสินค้าใน ปีนี้จะไม่รุนแรงเหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของบริษัทเองปีนี้ก็จะหันมาเน้นการทำซีอาร์เอ็มกับลูกค้ามากขึ้นผ่าน สมาชิกแม็คคลับ ด้วยการให้สิทธิพิเศษกับสมาชิก เพื่อลดการทำโปรโมชั่นสินค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่เข้ามาสมัคร สมาชิกแล้วประมาณ 4 หมื่นราย คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 5 แสนราย

"จากรายได้ที่ลดลงในปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้บริษัทต้องหันมาปรับแผนการทำตลาดใหม่ ด้วยการมุ่งเน้นขยายธุรกิจในกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้ หนึ่งในนั้น คือ การจำหน่ายเสื้อยืด และเสื้อเชิ้ต ซึ่งปัจจุบันกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีอัตราการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าซื้อได้บ่อยกว่าซื้อกลุ่มสินค้ายีนส์" นายบัณฑิต กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของภาพรวมแผนการดำเนินงานปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 100 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดในประเทศจะทำการเปิดจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 จุด ภายใต้งบลงทุนสาขาละประมาณ 1.2 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีแผนจะปรับร้านแม็คที่มีอยู่ประมาณ 18 สาขา เป็นร้านแม็คยีนส์ทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด

นอกจากนี้ ยังจะพัฒนาระบบไอที เพื่อรองรับการขยายธุรกิจออนไลน์ และอี-คอมเมิร์ซในอนาคต ซึ่งจะทำการตลาดในรูปแบบของออมนิแชนแนล คือสั่งสินค้าผ่านออนไลน์และมารับสินค้าได้ที่หน้าร้านผ่านเว็บไซต์ของแม็คช็อป (www.mcshop.com) รวมไปถึงการขยายช่องทางการ จัดจำหน่ายภายใต้ช็อป อโรเมติก แอคทีฟ ของบริษัท เพื่อจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ เอ็มแอนด์ซี และเนเจอร์ ทัช

นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ส่วนตลาดต่างประเทศจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ในประเทศเมียนมา ลาว และอิหร่านต่อเนื่อง รวมไปถึงเร่งศึกษาตลาดมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยสิ้นปีคาดว่าจะมี รายได้รวมกลับมาเติบโตที่ 10%