posttoday

ซีรี่ส์อินเดียฮิตราคาพุ่ง

01 มีนาคม 2561

เจเคเอ็นประกาศขยับราคาซีรี่ส์อินเดียอีก 50% ไตรมาส 2 หลังทีวีดิจิทัลแห่ซื้อไปออกอากาศ ส่งผลต้องปรับเป้ารายได้โตเป็น 20-25%

เจเคเอ็นประกาศขยับราคาซีรี่ส์อินเดียอีก 50% ไตรมาส 2 หลังทีวีดิจิทัลแห่ซื้อไปออกอากาศ ส่งผลต้องปรับเป้ารายได้โตเป็น 20-25%

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือเจเคเอ็น ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะปรับราคาซีรี่ส์อินเดียในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% หลังจากปีที่ผ่านมาได้ปรับราคาขึ้นไปแล้ว 50% ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันเป็นลูกค้าของบริษัทเกือบ 20 ช่อง

นอกจากนี้ การที่บริษัทได้นำ คอนเทนต์ไปขายในตลาดต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศไทย ซึ่งได้รับสิทธิมาจากการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในแต่ละเรื่องก็ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากซีรี่ส์อินเดียมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซีย

"ตอนนี้บริษัทกำลังเจรจาอยู่กับพันธมิตรทีวีดิจิทัลอีกประมาณ 7 ราย เพื่อขายซีรี่ส์อินเดียล็อตใหญ่ให้จากปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรรายใหญ่อย่างช่อง 3 ซึ่งปีนี้ซื้อซีรี่ส์อินเดียไปออกอากาศทางช่อง 3 เอชดี ช่อง 3 เอสดี และช่อง 3 แฟมิลี่ มากถึง 14 เรื่อง ขณะที่ช่อง 8 เองก็ซื้อไปออกอากาศมากถึง 10 เรื่อง ส่วนไบรท์ทีวีได้ซื้อซีรี่ส์ฟิลิปปินส์ 40 เรื่องไปออกอากาศ ซึ่งในอนาคตคาดว่าซีรี่ส์ดังกล่าวจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะคอนเทนต์เหมือนกับละครไทย" นายจักรพงษ์ กล่าว

นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากช่อง 3 เอาซีรี่ส์อินเดียของบริษัทไปออกอากาศไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาคิน หรืออโศกมหาราช ส่งผลให้เรตติ้งปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3 กว่า จากเดิมที่นำซีรี่ส์จีนมาออกอากาศมีเรตติ้งไม่ถึง 1 จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว ทำให้ช่อง 3 เล็งเห็นโอกาสหันมาซื้อซีรี่ส์อินเดียไปออกอากาศมากขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขายคอนเทนต์ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจ ด้วยการขยายธุรกิจเข้าไปในส่วนของออนไลน์ในรูปแบบของวิดีโอ ออนดีมานด์ (วีโอดี) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมคาดว่าในเร็วๆ นี้จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวธุรกิจดังกล่าว

จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทต้องปรับเป้าหมายรายได้ของปี 2561 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมีรายได้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 10-15% ปรับเพิ่มเป็นมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 20-25% หรือมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท จากปี2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ประมาณ 37% และมีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์กำลังได้รับกระแสความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทย