posttoday

การท่าเรือแจงเหตุเมล์เอ็นจีวี 7 คันเสียหายที่แหลมฉบัง

26 กุมภาพันธ์ 2561

รักษาการ ผอ.การท่าเรือฯ ชี้แจงสาเหตุที่ทำให้รถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 7 คัน ได้รับความเสียหายที่ท่าเรือแหลมฉบัง

รักษาการ ผอ.การท่าเรือฯ ชี้แจงสาเหตุที่ทำให้รถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 7 คัน ได้รับความเสียหายที่ท่าเรือแหลมฉบัง

เมื่อวันที่ 26 ก.พ.  เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีที่พบว่า รถเมล์เอ็นจีวีซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับความเสียหายว่า จากการตรวจสอบจากกระบวนการรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีนั้นมีการดำเนินการใน 3 ขั้นตอน โดยแต่ละขั้นตอนมีผู้รับผิดชอบดังนี้

1.ระหว่างการขนส่งทางเรือ รถเมล์เอ็นจีวี ได้จอดอยู่บนพื้นโครงเหล็กซึ่งมีขนาดเท่ากับตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุต โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันระหว่างการขนถ่าย จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการกระทบกระแทกกันได้สูง ซึ่งเมื่อเรือสินค้าได้เข้าเทียบที่ท่าเทียบเรือ ซี3 พบว่า มีรถเมล์ 3 คัน ชำรุดเสียหายก่อนจะมาถึงท่าเทียบเรือ โดยมีกระจกแตก ทะลุ ร้าว และได้มีการจัดทำบันทึกความเสียหาย ซึ่งผู้แทนของเรือสินค้าได้ลงนามรับทราบและรับรองความเสียหายดังกล่าวแล้ว ความเสียหายส่วนนี้ สายการเดินเรือเป็นผู้รับผิดชอบ

2.การรับฝากรถเมล์ในพื้นที่ท่าเทียบเรือ ซี3 ทลฉ. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดและมีกล้องซีซีทีวีบันทึกภาพตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ของท่าเทียบเรือ ซี3 ตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งตรวจพบรถเมล์ชำรุดเสียหายที่บริเวณกระจกอีกจำนวน 2 คัน ความเสียหายส่วนนี้ ท่าเทียบเรือ ซี3 เป็นผู้รับผิดชอบ

3.การส่งมอบรถเมล์เอแนจีวี ให้กับรถหัวลากที่ลำเลียงออกนอกพื้นที่ท่าเทียบเรือ ซี3 ทลฉ. นั้น ได้มีการตรวจสอบร่วมกันระหว่างท่าเทียบเรือ ซี3 และตัวแทนเจ้าของสินค้าและได้มีบันทึกการตรวจสอบร่วมกันแล้วพบว่ามีรถเมล์มีความเสียหายที่บริเวณกระจกรถ แต่หลังจากที่รถเมล์ได้ออกจากท่าเทียบเรือไปแล้ว มีการตรวจพบโดยผู้ขนส่ง ว่ารถเมล์มีไฟเลี้ยวและไฟท้ายแตกเพิ่มเติมอีก 2 คัน ความเสียหายส่วนนี้ ผู้รับบรรทุกเป็นผู้รับผิดชอบ

รักษาการ ผอ.การท่าเรือ กล่าวว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหา ร.ต.ต. มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้เข้าพื้นที่ท่าเทียบเรือ ซี3 เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีการประชุมร่วมกับท่าเทียบเรือ ซี3 พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน และจัดทำรายงานสรุปเหตุการณ์พร้อมให้ท่าเทียบเรือ ซี3 รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเสนอท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป