ดูราเกรสคาดปี53ทำยอดขายสูงสุดรอบ37ปี
กระเบื้องดูราเกรส ขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการของผู้บริโภคคาดยอดขายทั้งปีโตตามเป้า 2,400 ล้านบาท สูงสุดรอบ 37ปี
กระเบื้องดูราเกรส ขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการของผู้บริโภคคาดยอดขายทั้งปีโตตามเป้า 2,400 ล้านบาท สูงสุดรอบ 37ปี
นายสุทิน ยุทธนาวราภรณ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจในปีนี้ว่าสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยยอดขายรวมตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 % จากปี 2552 คาดว่าบริษัทฯจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 2,400 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งถือว่าเป็นยอดสูงสุดตลอดช่วง 37 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ความต้องการกระเบื้องเซรามิคของตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าโครงการ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันลูกค้าที่เป็นสถาปนิก มัณฑนากร ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของดูราเกรส โดยเรามีกลุ่มลูกค้าที่เชื่อมั่นต่อแบรนด์ดูราเกรส(Brand Loyalty) จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่กระเบื้องดูราเกรสสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกระเบื้องเซรามิคมากว่า 37 ปี
“ทุกวันนี้ตลาดกระเบื้องเซรามิคแข่งขันด้านราคากันอย่างหนัก ทั้งจากผู้ผลิตในประเทศและกระเบื้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่เรามองว่าเราจะไม่ลงไปแข่งขันตรงนั้น ที่ผ่านมานอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านการออกแบบลายใหม่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่พัฒนามานานและต่อเนื่องอยู่จนถึงปัจจุบัน เรา Position ไปที่ Product Value คือทำอย่างไรให้กระเบื้องดูราเกรสเป็นมากกว่ากระเบื้องปูพื้นหรือบุผนัง อย่างเช่น เราพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเบื้องภายใต้ SHE (Safety, Healthy, Environment) Concept เพื่อมาตอบโจทย์ตรงนี้ โดยตอบโจทย์ในด้านของนวัตกรรม ความทนทาน ความสวยงาม ความแกร่ง และคุณค่าของผลิตภัณฑ์เองเพื่อให้ลูกค้าเกิดความปีติกับกระเบื้องดูราเกรส”นายสุทินกล่าว
นายสุทินกล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนที่จะนำเข้าเครื่องจักรใหม่จากอิตาลี ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มการผลิตอีก 5 ล้านตารางเมตรต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิม 25% โดยการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจะเริ่มตั้งแต่ปี2554 เป็นต้นไป สำหรับผลิตกระเบื้องเซรามิคและพอร์ซเลน ซึ่งคาดว่า ความสามารถในการผลิตจะรองรับความต้องการและทำให้ยอดขายเติบโตได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10% ภายใน 3 ปีหน้า
นอกจากนี้ยังมีการนำนวัตกรรมการพิมพ์ลายกระเบื้องแบบใหม่ที่เรียกว่า Digital Printing Technology เข้ามาใช้ในการผลิตกล่าวคือเป็นเครื่องพิมพ์ที่ไม่สัมผัสหน้ากระเบื้องซึ่งถือเป็นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ส่งผลให้กระเบื้องมีลวดลายลึกซึ้ง เหมือนธรรมชาติ และมีมิติสูงกว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย
นายภาวัต อินทรสุวรรณ ผู้จัดการส่วนการตลาด บริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด(มหาชน) เสริมว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าเป็นผู้นำในธุรกิจกระเบื้อง โดยเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า โดยจะใช้งบการส่งเสริมการตลาด และโฆษณาประชาสัมพันธ์ อีกไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทตลอดช่วง 3 ปีหน้านี้ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ออกแคมแปญ สนุกจัง season2 แจกโชคมากกว่า 2 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขาย คาดว่าหลังจบแคมเปญนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ 650 ล้านบาท