ชูเมืองพาราไดซ์แดนใต้ แหล่งช็อปปิ้งปลอดภาษี-กาสิโน

เอกชนสงขลา นราธิวาสเร่งผลักดัน “สะเดา หาดใหญ่ สุไหงโก-ลก” เป็นเมืองแห่งดิวตี้ฟรี พาราไดซ์กาสิโน พัฒนาคู่ขนานกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ภาคเอกชน จ.สงขลา ได้นำเสนอแนวทางให้เขตเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมทั้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเมืองแห่งดิวตี้ฟรีโซน พาราไดซ์ กาสิโน พัฒนาคู่ขนานกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา จำนวน 1,069 ไร่ ที่ดึงนักลงทุนเข้าไปตั้งโรงงานอุตสาหกรรมโดยได้รับด้านสิทธิประโยชน์จากการลงทุน ซึ่งการผลักดันเมืองดิวตี้ฟรีโซนและเมืองพาราไดซ์จะส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยก่อนสิ้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป

นายกวิศพงษ์ กล่าวอีกว่า ทางเทศบาลเมืองสะเดามีศักยภาพทางด้านการค้า ด้านเศรษฐกิจอยู่แล้ว เนื่องจากชายแดน อ.สะเดา อยู่ในเขตรอยต่อกับรัฐเคดาห์ รัฐปะลิส ของมาเลเซีย ทำให้เป็นเมืองชายแดนที่มีสินค้านำเข้า ส่งออก สูงที่สุดของประเทศ โดยในปี 2560 มีมูลค่าถึง 8.4 แสนล้านบาท หากเอกชนสามารถผลักดันสะเดาเป็นเมืองแห่งดิวตี้ฟรีโซน พาราไดซ์ และบ่อนกาสิโน ยิ่งจะดึงดูดนักลงทุน นักท่องเที่ยว เข้ามาทำการค้าการลงทุนด้วยมากยิ่งขึ้น

“สำหรับเมืองชายแดนที่นำเข้าส่งออกสินค้าสูงสุดของประเทศ รัฐบาลเห็นควรยกระดับ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ และ อ.สุไหงโก-ลก เป็นเมืองดิวตี้ฟรี เมืองพาราไดซ์ ควบคู่กับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ซึ่งจะทำให้ชายแดนไทยขยายตัวได้เติบโตไม่แตกต่างกับบริเวณชายแดนรัฐยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซีย ติดกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเมืองเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้เศรษฐกิจเขาคึกคักเป็นพิเศษ” นายกวิศพงษ์ กล่าว

ด้าน นายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการเมืองต้นแบบ 3 เหลี่ยมความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความก้าวหน้าไปมาก ประเมินผลรอบ 1 ปี เป็นอันดับ 1 คือ เมืองต้นแบบ 3 เหลี่ยมความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเมืองเกษตรกรรม มีการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง

ขณะที่อันดับที่ 2 คือ เมืองต้นแบบ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อ.เบตง จ.ยะลา ขณะนี้มีการลงทุนก่อสร้างสนามบินเบตง สถานที่ที่ชมทะเลหมอก ชมวิวเป็นเมืองท่องเที่ยว และก่อสร้างโรงไฟฟ้า ฯลฯ เป็นต้น ส่วนอันดับที่ 3 คือเมืองต้นแบบ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมืองเก่าที่เศรษฐกิจเคยขยายตัวเติบโตมาเป็นอันดับต้นๆ ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีทางออกที่ชัดเจนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับคืนมา นั่นคือเดินหน้าผลักดันให้เป็นเมืองดิวตี้ฟรีโซน

นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า สุไหงโก-ลก เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย หากประกาศให้สุไหงโก-ลกเป็นเมืองดิวตี้ฟรีโซน ปัจจัยสนับสนุนจะตามมา คือพื้นที่ปลอดภัย เศรษฐกิจขยายตัวขับเคลื่อนไวได้ทันที และจะเกิดมิติของเมืองใหม่ การค้า การลงทุน ท่องเที่ยวเติบโตไม่หยุด

นอกจากเมืองสุไหงโก-ลกมีการผลักดันเป็นเมืองดิวตี้ฟรีโซนแล้ว ยังมี อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็อยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันเป็นเมืองดิวตี้ฟรีโซน เมืองพาราไดซ์เช่นกัน