posttoday

เร่งเจรจาผู้ผลิตลดราคา "มินิบัส" รองรับผู้ประกอบการรถตู้ต้องเปลี่ยนมาใช้

12 กุมภาพันธ์ 2561

เร่งเจรจาผู้ผลิตลดราคารถมินิบัส หลังผู้ประกอบการรถตู้โอดรับภาระไม่ไหว ส่วนมาตรการส่งเสริมสหกรณ์-รับซื้อรถเก่า ส่อแท้งหลังผู้ประกอบการคัดค้านไม่เอาด้วย

เร่งเจรจาผู้ผลิตลดราคารถมินิบัส หลังผู้ประกอบการรถตู้โอดรับภาระไม่ไหว ส่วนมาตรการส่งเสริมสหกรณ์-รับซื้อรถเก่า ส่อแท้งหลังผู้ประกอบการคัดค้านไม่เอาด้วย

นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ต้องเปลี่ยนมาใช้รถมินิบัสทั้งหมดราว 4,000 คันช่วงระหว่างปี ‭‪‭2561-2565‬‬‬ เนื่องจากทางฝ่ายผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างร้องเรียนว่าราคามินิบัสที่ผลิตในประเทศไทยนั้นมีราคามากกว่า 2.3 ล้านบาท ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับราคารถมินิบัสที่ผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาจะอยู่ที่ราว 1.7-2.2 ล้านบาท ด้วยราคาดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการมองว่าเป็นภาระที่สูงเกินไปที่จะรับไหวเนื่องจากยังต้องตรึงราคาค่าโดยสารไม่ให้สูงไปจากเดิมแม้ต้องลงทุนเพิ่ม

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังจะหารือกันภายในสองสัปดาห์เพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องราคามินิบัสที่ผลิตในประเทศ เบื้องต้นจะหาแนวทางส่งเสริมและเจรจากับผู้ผลิตในประเทศให้ลดราคาดังกล่าวลงมาเพื่อแข่งขันกับรถมินิบัสที่ผลิตจากต่างประเทศรวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการเดินรถสาธารณะที่มีต้นทุนดำเนินการไม่มากอีกด้วยตลอดจนหารือกระทรวงการคลังและหน่วยงานการเงินที่เกี่ยวข้องอย่าง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อส่งเสริมสิทธิพิเศษและการช่วยเหลือทางภาษีให้กับผู้ประกอบการเพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนด้านตัวเลขการอุดหนุนและราคาต้นทุนมินิบัสที่ชัดเจนมากขึ้นภายในเดือนนี้เพื่อรองรับการเปลี่ยนรถมินิบัสในปี 2561 ราว 1,000 คัน

นายเชิดชัย กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ออกมาก่อนหน้านี้นั้นพบว่ายังไม่มีความคืบหน้า โดยเริ่มจากโครงการการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรวมตัวกัน จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หรือสหกรณ์เพื่อการเดินรถ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการจัดหารถโดยสารขนาดเล็ก หารือกับสถาบันการเงินเรื่องการค้ำประกันเงินกู้และจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำโดยให้บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) เป็นแม่งานในการดำเนินการนั้น ตามที่ผู้ประกอบการได้ร้องเรียนนั้นพบว่าบขส.ได้วางกรอบราคาการคิดค่าโดยสารเป็นแบบร่วมกันทั้งกลุ่มจนมีบางฝ่ายมองว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้น้อยลงกว่าการที่ไม่ได้รวมกลุ่มกันอีกทั้งยังมองว่าอาจเอื้อให้เกิดรูปแบบการแบ่งรายได้ที่ไม่เป็นธรรมในสหกรณ์อีกด้วย

ขณะที่แผนรับซื้อรถตู้เก่าในราคาคันละประมาณ 5.5แสนบาท เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินไปดาวน์รถมินิบัสได้นั้น โครงการดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการภายหลังจากที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ตั้งเงื่อนไขว่าการรับซื้อรถเก่าต้องโอนผู้ขับขี่หรือลูกจ้างขับขี่ประจำรถเก่ามาด้วย ส่งผลให้ผู้ประกอบการนั้นไม่เข้าร่วมโครงการเนื่องจากยังต้องใช้พนักงานขับรถเพื่อดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต