นวัตกรรมอาชีวะสู่โครงการ "พลังอาชีวะจิตอาสา เปรมประชา คลองรังสิตพัฒนา"

 

ด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชปณิธานในการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในลำน้ำ คู คลองในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดจนปัญหาจากผักตบชวาที่เป็นอุปสรรคกีดขวางทางน้ำไหลและกีดขวางทางสัญจรของประชาชนที่สัญจรทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการเสริมสร้างอาชีพ สามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ในชุมชน ทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงได้ดำเนินการสนองพระราชปณิธาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใน 2 เรื่อง ได้แก่

1.การบำบัดน้ำเสียในคลองเปรมประชากร ระยะทาง 22 กิโลเมตร เริ่มจากคลองรังสิต ถึงคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งมีปัญหาน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น และมีขยะลอยอยู่ในลำน้ำเป็นจำนวนมาก

2.การกำจัดขยะในบริเวณคลองรังสิตพัฒนา ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร โดยเริ่มตั้งแต่ปากคลองรังสิต ถึงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ซึ่งมีปัญหาผักตบชวาลอยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการสัญจรทางน้ำ และกีดขวางทางน้ำไหลเพื่อระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดปทุมธานี

ในการนี้ สอศ. ได้รับมอบหมายจากสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง โดย พ.ต.อ. ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองราชเลขาธิการพระราชวัง

 

สำนักพระราชวัง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ เพื่อสนองพระราชปณิธานในพระองค์ โดยดำเนินโครงการ "พลังอาชีวะจิตอาสา เปรมประชา คลองรังสิตพัฒนา"

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ตั้งคณะทำงาน ซึ่งเป็นสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่อเรือพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน วิทยาลัยเทคนิคนครนายก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี วิทยาลัยเทคนิคระยอง และวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง ร่วมกันสร้างเครื่องมือ อุปกรณ์ที่เป็นนวัตกรรม เพื่อบำบัดน้ำเน่าเสีย และขยะในคลองเปรมประชากร และสร้างเครื่องมือ อุปกรณ์ที่เป็นนวัตกรรม เก็บเกี่ยวผักตบชวาในคลองรังสิตพัฒนา ทั้งนี้ วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ได้สร้างเครื่องกลเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 5 เครื่อง เป็นชนิดเครื่องกลเติมกากาศในน้ำชนิดเพิ่มออกซิเจนแบบตีบนผิวน้ำ จำนวน 4 เครื่อง และเครื่องกลเติมอากาศในน้ำชนิดพ่นน้ำพุ จำนวน 1 เครื่อง วิทยาลัยเทคนิคนครนายก สร้างเครื่องกลเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 เครื่อง เป็นเครื่องกลเติมอากาศชนิดควักน้ำ จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องกลเติมอากาศในน้ำชนิดตีน้ำแตกกระจายสลับกับปั๊มน้ำ จำนวน 1 เครื่อง และวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่อเรือพระนครศรีอยุธยา สร้างเครื่องกลเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดดูดอากาศลงไปผสมกับน้ำใต้ลำน้ำ จำนวน 1 เครื่อง ทั้งหมดได้ดำเนินการติดตั้งเพื่อทดสอบการทำงานและวัดคุณภาพน้ำในคลองเปรมประชากร บริเวณหลังวัดหลักสี่ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวขณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการทำงานของ "เครื่องกลเติมอากาศและบำบัดน้ำเสีย พลังงานแสงอาทิตย์" ว่า สอศ. ได้มอบให้ครู และนักศึกษาอาชีวะ สร้างเครื่องมือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยนำองค์ความรู้ "ศาสตร์พระราชา" กังหันน้ำชัยพัฒนามาใช้ ซึ่งได้ดำเนินการและบูรณาร่วมกันหลายวิทยาลัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งติดตั้งชุดอุปกรณ์ส่งสัญญาณ รายงานคุณภาพน้ำที่บำบัดผ่านระบบมือถือทุกๆ 4 ชั่วโมง และประดิษฐ์นวัตกรรมชุดไฮบริดเสริมกรณีที่พลังงานแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ ทั้งนี้หน่วยงานในสังกัด สอศ. รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมกันดำเนินโครงการ "พลังอาชีวะจิตอาสา เปรมประชา คลองรังสิตพัฒนา" เพื่อสนองพระราชปณิธาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อย่างต่อเนื่องต่อไป

ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเสริมว่า นอกจากการสร้างนวัตกรรมเครื่องกลเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์และครื่องทำน้ำพุเติมอากาศในน้ำแล้ว สอศ. ยังได้มอบหมายให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาในสังกัดสร้างนวัตกรรมเพื่อกำจัดขยะและผักตบชวา ประกอบด้วย เรือดูดเลน เรือเก็บขยะ เรือกำจัดผักตบชวา เพื่อใช้ในโครงการ "พลังอาชีวะจิตอาสา เปรมประชา คลองรังสิตพัฒนา ซึ่งผลจากการทดสอบในครั้งนี้ สอศ. จะนำนวัตกรรมต้นแบบ คือ เครื่องกลเติมอากาศและบำบัดน้ำเสียที่ได้รับการพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานสมบูรณ์แล้ว มาติดตั้งตลอดแนวพื้นที่ของคลองเปรมประชากร เริ่มจากคลองรังสิต ไปจนถึงทำเนียบรัฐบาล ส่วนเรือเก็บผักตบชวา จะนำมาติดตั้งตลอดแนวคลองรังสิต เริ่มจากปากคลองรังสิตพัฒนา ไปถึงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ รวม นวัตกรรมละ 77 เครื่อง เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ที่ต้องการให้พสกนิกรของพระองค์ มีความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้สังคมมีสุขต่อไป

ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชน ต่างขานรับอุปกรณ์กำจัดน้ำเสียของอาชีวศึกษา เพราะทุกคนอยากให้คูคลองสะอาด น้ำระบายได้ดี กลิ่นเน่าเหม็นหายไป ไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและสัตว์มีพิษ และกล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดูแลชาวบ้านเป็นอย่างดี สมาชิกในชุมชนก็จะร่วมกันดูแลรักษาคลองให้สะอาด ไม่ทิ้งขยะ ลงไปในคลอง เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ต่อไป"