"ไบโอดีเซล"ส่อล้นตลาด เหตุมีโรงงานใหม่เพิ่มดันกำลังผลิตพุ่ง

เอกชนหวั่นตลาดไบโอดีเซลแข่งขันสูงเหตุโรงงานใหม่ผุด 2-3 แห่ง ดันกำลังผลิตพุ่ง 8.5 ล้านลิตร/วัน ฉุดราคาร่วง

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ไบโอดีเซล (บี100) ปี 2561 โรงงานบี 100 จะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากจะมีโรงงานแห่งใหม่เกิดขึ้นอีกประมาณ 2-3 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 13 แห่ง กำลังการผลิตประมาณ 6.6-7 ล้านลิตร/วัน และเมื่อรวมโรงใหม่คาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 8-8.5 ล้านลิตร/วัน ในขณะที่ความต้องการบี 100เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 3-3.5 ล้านลิตร/วันเท่านั้น

ทั้งนี้ โรงงานผลิตบี 100 อีก 2-3 แห่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 คือ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล และบริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งทั้งสองแห่งเน้นผลิตเองใช้เอง แนวโน้มในอนาคตจะเห็นผู้ใช้หันมาผลิตเองมากขึ้น จะทำให้กำลังการผลิตที่เหลือในตลาดต้องแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่ง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาบี 100 ที่ล้นตลาดส่งผลให้ที่ผ่านมาโรงงานมีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยไม่ถึง 50%เกิดการตัดราคาขายเหลือไม่ถึง 20 บาท/ลิตร ทำให้ต้นทุนไทยสู้มาเลเซียไม่ได้ เพราะมาเลเซียมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยถึง 80% ทำให้การผลิตคุ้มค่าเชิงพาณิชย์ และจากการที่รัฐบาลมีนโยบายจะผลักดันให้มีการผสมบี 100 ในดีเซล 7% เพื่อจำหน่ายไบโอดีเซลบี 7 ตลอดปี 2561 ถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยสร้างงานและพยุงราคาปาล์ม ทำให้ระบบเศรษฐกิจในประเทศหมุนเวียน แทนที่จะต้องหันไปส่งออกเป็นน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ)

สำหรับสต๊อกซีพีโอขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณกว่า 4 แสนตัน ส่วนหนึ่งมีการส่งออกซีพีโอไปแล้วประมาณ 1 แสนตัน ในช่วงที่ผ่านมา เพราะราคาตลาดโลกตกต่ำ ทำให้สามารถแข่งขันได้ หากคงบี 7 ตลอดปีจะมีบี 100 เพียงพอหรือไม่ คงต้องติดตามใกล้ชิด เพราะราคาตลาดโลกจะมีส่วนสำคัญต่อการส่งออก

นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ กล่าวว่า ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์แจ้งมายังเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มว่า รองปลัดกระทรวงจะลงพื้นที่เพื่อหารือถึงนโยบายภาพรวมที่รัฐจะดำเนินการเพื่อให้เกษตรกรรับทราบ คงต้องดูว่ารัฐจะมีแนวทางอย่างไรเพิ่มเติม เพราะขณะนี้ราคาปาล์มก็ยังไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก โดยปาล์มดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50-3.40 บาท/กก.เท่านั้น