'เอพี ไทยแลนด์' ประกาศสถิติใหม่ สร้างยอดขายสูงกว่า 41,000 ล้านบาท
เอพี ไทยแลนด์สร้างเซอร์ไพรส์ตลาดอสังหาฯ โชว์สถิติใหม่ ยอดขายปี 60 พุ่งสูงถึง 41,600 ล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อนถึง 85%...
เอพี ไทยแลนด์สร้างเซอร์ไพรส์ตลาดอสังหาฯ โชว์สถิติใหม่ ยอดขายปี 60 พุ่งสูงถึง 41,600 ล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อนถึง 85% ผลจากสินค้าแนวราบขายได้ต่อเนื่อง รวมถึงการปลุกแบรนด์ LIFE CONDO ใน 3 ทำเลเด็ด วิทยุ ลาดพร้าว และอโศก-พระราม 9 พร้อมเผยสูตรความสำเร็จพัฒนาอสังหาฯ ต้องเชื่อมโยง 4 มิติ ทั้งโลเคชั่น สินค้า ราคา และซัพพลายคงเหลือ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปีหน้า ซัพพลายสนองตลาดระดับกลางและบนยังไปได้ดี สินค้าแนวราบยังเป็นที่น่าจับตามอง ส่วนคอนโดต้องเจาะลึกเป็นรายเซกเมนต์
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560) เอพี ไทยแลนด์ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายรวมสินค้าทั้งกลุ่มคอนโดและแนวราบได้สูงถึง 41,600 ล้านบาท นับเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 85% และเกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาทถึง 60% โดยแบ่งเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าแนวราบ 14,525 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 27,075 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้นั้น นอกจากมาจากสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีแล้ว ยังมาจากความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว LIFE วิทยุ และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) อีกกว่า 80 โครงการ ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จครั้งนี้
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จของแนวทางการพัฒนาอสังหาฯ ของเอพี ที่นำมิติทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) โลเคชั่น 2) โปรดักส์ที่เข้าถึงความต้องการแฝง 3) การกำหนดแพคเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถในการผ่อนชำระ และ 4) การศึกษาจำนวนซัพพลายคงเหลือแต่ละเซกเมนต์ มาเชื่อมโยงกันเพื่อออกแบบโมเดลสินค้าและราคาขายที่เข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
"เรารู้ดีว่า ทุกวันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วและแบ่งแยกเป็นกลุ่มย่อยที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าเอพีประสบความสำเร็จคือ การทำงานภายใต้แนวคิดการออกแบบสินค้าที่ตอบความลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Mass Customized Design) ซึ่งเราเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบ ภายใต้ทางเลือกที่เรากำหนดขึ้น ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยน ขยาย ลด พื้นที่การใช้งานได้ตามต้องการ จากนั้นดีไซเนอร์จะนำความต้องการที่ได้มาพัฒนาต่อจนออกมาเป็นโปรดักส์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่รับกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบัน เรามีแบบบ้านแนวราบที่ตอบความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้ามากกว่า 70 ดีไซน์ กระจายอยู่ใน 60 โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพฯ และเราก็ยังคงไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีในอนาคตต่อไป" นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม
นอกจากนั้น ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ อย่างมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) ในการส่งต่อแนวคิดในการบริหารจัดการคุณภาพ สู่การสร้างกรอบแนวคิดหลักในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการพัฒนาคอนโดมิเนียมเอพี โดยผสมผสานประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาฯ เข้ากับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง IoT (Internet of Things) ตลอดจนนวัตกรรมการก่อสร้างสำเร็จรูปในระบบโมดูลาร์ อย่างห้องน้ำสำเร็จรูปที่ให้ค่า Defect เท่ากับศูนย์
ในปี 2560 เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ยังถือเป็นพันธมิตรรายแรกและรายเดียวในธุรกิจที่มีโมเดลการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่แตกต่างจากรายอื่น ด้วยการจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ด้วยทุนจดทะเบียนที่สูงถึง 6,100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด" เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากญี่ปุ่น มาทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพี
คอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างเอพี (ไทยแลนด์) และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) มีทั้งหมด 11 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 50,830 ล้านบาท ยอดขายรวมเฉลี่ย 85% ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ RHYTHM สุขุมวิท 36-38 ASPIRE รัชดา-วงศ์สว่าง ASPIRE สาทร-ท่าพระ และRHYTHM อโศก 2 โดยทั้ง 4 โครงการมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในปี 2561 เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป จะยังคงจับมือเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ของคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่องสำหรับคาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 ภาพรวมธุรกิจยังคงสอดรับกับภาพการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ การแข่งขันยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหลัก ที่ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซัพพลายที่ตอบโจทย์ตลาดระดับกลางและบนขึ้นไปยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค การเปิดตัวของสินค้าใหม่แนวราบยังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง ส่วนคอนโดมิเนียมสินค้าที่ตอบตลาดระดับกลางถึงบนยังคงมีกำลังซื้อ ส่วนตลาดระดับล่างค่อนข้างน่ากังวลเพราะมีสต๊อกสร้างเสร็จคงเหลือจำนวนมาก กระแสการมาของเทคโนโลยีถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องปรับตัวให้ทัน เทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นเพียงตัวช่วยที่เปิดโอกาสให้เข้าใจและรู้จักลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้ว ผู้ประกอบการต้องค้นหาให้เจอว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตนเองกำลังมองหาอะไรสำหรับการอยู่อาศัยในโลกอนาคต
ในปี 2560 บริษัท เอพี ไทยแลนด์ เปิดตัวโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 49,040 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 12,350 ล้านบาท ทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่า 12,590 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 24,100 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560) สามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 41,600 ล้านบาท และเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 85% และเกินจากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 65% หรือ 26,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายสินค้าแนวราบ 14,525 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 27,075 ล้านบาท
"เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย"