posttoday

ซิซซ์เล่อร์บิ๊กเชนจ์ธุรกิจ ลุยปรับร้านลดราคาอาหาร

30 พฤศจิกายน 2560

ซิซซ์เล่อร์ลุยกลยุทธ์ บิ๊กเชนจ์ ประกาศลดราคาอาหารเมนูยอดนิยม 10-20% เอาใจลูกค้า

ซิซซ์เล่อร์ลุยกลยุทธ์ บิ๊กเชนจ์ ประกาศลดราคาอาหารเมนูยอดนิยม 10-20% เอาใจลูกค้า

น.ส.นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วย รองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที ผู้บริหารซิซซ์เล่อร์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ บิ๊กเชนจ์ ด้วยการให้ความสำคัญกับการกลยุทธ์ 4พี ในการทำตลาด

ในส่วนของพีตัวแรก คือ Price จะปรับราคาสินค้าลดลงจากเดิมประมาณ 10-20% สำหรับเมนูอาหารยอดนิยม 4-5 รายการแบบถาวร เช่น เมนูไก่สไปซี จาก 299 บาท เหลือ 279 บาท เมนูพอร์คช้อปจาก 349 บาท เหลือ 319 บาท และเมนูเนื้อนิวยอร์คจาก 949 บาทเหลือ 799 บาท เพราะลูกค้าแนะนำว่าราคาอาหารสูงเกินไป โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด

สำหรับกลยุทธ์ Promotion บริษัทได้ปรับลดราคาเมนูสลัดบาร์จาก 199 บาท เหลือ 139 บาท ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2561 เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ต้องการรับประทานสลัดเพียงอย่างเดียว

ด้านกลยุทธ์ Product บริษัทจะ เปิดตัวเมนูอาหารใหม่ๆ พร้อมปรับ รูปแบบการจัดวางรวมไปถึงภาชนะใส่อาหารให้มีความสวยงามมากขึ้น เช่นเดียวกับกลยุทธ์ Place ซึ่งมีแผนจะปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยการนำสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดนั้นๆ มาตกแต่งร้านผ่านภาพวาด

"การนำบรรยากาศของท้องถิ่นเข้ามาร่วมตกแต่งภายในร้านบริษัทได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 4 จะเห็นได้ว่าสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการบริษัทได้มีการ นำจุดเด่นของจังหวัดนั้นๆ มาตกแต่งร้าน เช่น สาขาวี-สแควร์ นครสวรรค์ ใช้รูปทุ่งบัวแดงและนกมาตกแต่งร้าน ขณะที่สาขาเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ใช้รูปภาพปลาทู ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับตัว ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี" น.ส.นงชนก กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้เริ่มปรับราคาเมนูอาหารยอดนิยมบางรายการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างดี โดยในส่วนของเมนูไก่สไปซีและพอร์คช้อปมียอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ขณะที่เมนูเนื้อนิวยอร์คมียอดขายเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว และเมนูสลัดบาร์มียอดขายเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า

น.ส.นงชนก กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการขยายสาขาในปี 2561 นั้น บริษัทมีแผนจะเปิดร้านซิซซ์เล่อร์ สาขาใหม่ประมาณ 3 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละประมาณ 18-20 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนปรับร้านเก่าอีกประมาณ 7-8 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 7-8 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังจะใช้งบลงทุนอีกประมาณ 200 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อให้สิ้นปี 2561 มีรายได้เติบโตที่ 15% ขณะที่สิ้นปี 2560 นี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตที่ 10%