พณ.สั่งจังหวัดเน้นสร้างความพึงพอใจให้ผู้ถือบัตรคนจนใช้บริการร้านธงฟ้า

"สนธิรัตน์"สั่งพาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อนร้านธงฟ้าประชารัฐเฟส 3 เน้นสร้างความพึงพอใจผู้ถือบัตรคนจน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือผ่านวีดีโอ คอนเฟอเรนท์ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดว่า ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อนร้านธงฟ้าประชารัฐระยะที่ 3 (เฟส 3) ซึ่งจะเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งการประเมินความพึงพอใจจะวัดจากการให้บริการร้านธงฟ้าประชารัฐในพื้นที่มีเพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้บริการหรือไม่ ระยะเวลาในการให้บริการกับประชาชนผู้ถือบัตร พื้นที่ตั้งร้านห่างไกลจากชุมชนผู้ถือบัตรมากน้อยแค่ไหน และหากจะต้องมีการเพิ่มจำนวนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐมากกว่า 1.8 หมื่นแห่ง ก็ให้เสนอมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะหารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางที่จะเพิ่มเติมร้านธงฟ้าประชารัฐเฟส 3 ต่อไป

“ร้านธงฟ้าประชารัฐเฟส 3 จะเน้นการสร้างความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ซึ่งในเฟสแรกได้เน้นจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ตามเป้าหมาย 1.8 หมื่นแห่ง โดยปัจจุบันมีร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) แล้ว 1.2 หมื่นแห่ง เหลืออีก 6,000 แห่ง ก็จะครบตามเป้าเฟสแรก โดยสิ้นเดือนพ.ย.นี้น่าจะได้ครอบคลุม ส่วนเฟส 2 เน้นการนำสินค้าชุมชนเข้าไปจำหน่ายภายในร้านธงฟ้าประชารัฐ และก็ดำเนินการอยู่ เพราะปัจจุบันมีข้าวสารที่ผลิตจากชุมชน และไข่ไก่จากชุมชนเข้าไปวางขายในร้านธงฟ้าประชารัฐแล้ว”นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับธนาคารของรัฐที่ให้สินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โอท็อป และวิสาหกิจชุมชน และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งเป็นหน่ยงานค้ำประกัน และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อดำเนินงานโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐเฟส 2 จะมีการผลักดันสินค้าชุมชน โอท็อป เข้าไปขายในร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะมีการบูรณาการหน่วยงานทั้งหมด ในการผลักดันให้สินค้าชุมชนมาวางจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ

“การคัดเลือกสินค้าชุมชมมาจำหน่าย ก็จะต้องดูว่าสินค้านั้นที่ต้องการของตลาดในพื้นที่นั้นหรือไม่ เช่น จ.ระยอง มีน้ำปลาที่เป็นสินค้าชุมชน ก็ต้องไปดูว่าน้ำปลานั้นมีคุณภาพและมาตรฐานเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งปริมาณสินค้าที่จะต้องมาวางจำหน่าย ซึ่งเรื่องเหล่านี้แบงก์ก็จะเข้าไปช่วยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ เป็นต้น รวมทั้งการผลักดันสินค้าเกษตรเข้าไปวางจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย ตรงจุดนี้จะให้พาณิชย์จังหวัดเข้าไปดูแลว่ามีสินค้าเกษตรใดที่ล้นตลาด ก็ควรจะต้องหาช่องทางกระจายตลาด โดยนำมาจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐอีกทางหนึ่ง”นายสนธิรัตน์ กล่าว