posttoday

จ่อฟันข้าวจีทูจีล็อต2! ปปช.สอบเสร็จเตรียมส่งลงโทษทั้งแพ่ง-อาญา

28 สิงหาคม 2560

ป.ป.ช.เตรียมชี้มูลความผิดทุจริตขายข้าวจีทูจีล็อต 2และทุจริตมันจีทูจีอีก 7 สัญญา ภายในปีนี้

ป.ป.ช.เตรียมชี้มูลความผิดทุจริตขายข้าวจีทูจีล็อต 2และทุจริตมันจีทูจีอีก 7 สัญญา ภายในปีนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบการทุจริตขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตที่2 อีก 8 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตันเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นการขายข้าวสต๊อกรัฐบาลให้กับรัฐวิสาหกิจของจีน แต่ไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลกลางของจีนให้ทำสัญญาซื้อขายกับไทย รวมทั้งยังได้ตรวจสอบการทุจริตขายมันสำปะหลังแบบจีทูจีของกระทรวงพาณิชย์เสร็จสิ้นแล้วเช่นกันโดยพบว่ามีการทุจริตเหมือนกับการขายข้าวจีทูจี โดยได้ทำสัญญาซื้อขายมันจำนวน 7 สัญญา ปริมาณ 4.79 ล้านตัน

“ทั้งสองกรณีคือการขายข้าวจีทูจีและมันจีทูจี โดยบริษัทจากจีนไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลกลาง และหากมีการชี้มูลความผิดจริงบุคคลที่เกี่ยวข้องจะเป็นคนกลุ่มเดียวกับการขายข้าวจีทูจี และน่าจะมีข้าราชการและภาคเอกชนรายใหม่เพิ่มเข้ามาอีกคาดว่า ป.ป.ช.น่าจะชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ภายในปีนี้”แหล่งข่าวเปิดเผย

สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้าวจีทูจีล็อตที่ 2 นี้ น่าจะเป็นกลุ่มบุคคลเดิมที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และตัดสินจำคุกนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวกรวม 28 รายซึ่งมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตข้าวจีทูจีล็อตแรกรวม 4 สัญญา ปริมาณ 6.2 ล้านตัน คาดว่าน่าจะมีบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีก เช่น อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ที่รับตำแหน่งต่อจากนายมนัส สร้อยพลอย

นอกจากนี้ อาจมีข้าราชการกระทรวงพาณิชย์รายใหม่อีกจำนวนหนึ่ง ที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบความเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน เช่น อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการกรมการค้าภายใน เป็นต้น โดยคนกลุ่มนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะไม่ได้ตรวจสอบความเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม หาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดน่าจะมีความผิดตามข้อกล่าวหาเดียวกับการชี้มูลทุจริตข้าวจีทูจีล็อตแรก คือ ผิดประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งจะเสนอความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาโดยกรณีข้าราชการจะพิจารณาลงโทษทางวินัย และจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง เพื่อพิจารณาเรียกค่าเสียหายต่อไป

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การขายข้าวจีทูจีล็อต 2 ที่ได้มีการตรวจสอบพบว่าไม่มีจริง เช่น การขายให้กับบริษัท ไฮกูเหลียงเหมา ซีเรียล แอนด์ ออยล์เทรดดิ้ง ปริมาณ 3 ล้านตัน บริษัท ไฮกู เหลียงหยุ่นไหล่ ซีเรียล แอนด์ ออยล์ เทรดดิ้ง ปริมาณ 2 ล้านตัน บริษัท ไฮหนาน โพรวินซ์ แลนด์ รีเคลเมชั่น อินดัสเทรียล ดิเวล็อปเม้นท์ปริมาณ 4 ล้านตัน และบริษัท ไห่หนาน แลนด์ รีเคลเมชั่น คอมเมอร์ส แอนด์ เทรด กรุ๊ป ปริมาณ 5 ล้านตัน โดยบริษัทเหล่านี้ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนให้ทำสัญญาซื้อขายกับไทย แต่เป็นการแอบอ้างการขายจีทูจี